เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2560 - 21:07

BMW G310R vs. KTM 390 Duke vs. Kawasaki Ninja 400 งบ 2 แสน ไม่สนใจสายพันธุ์ รุ่นไหนคือคำตอบ

 

          ต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน เหล่าไบค์เกอร์ได้หันมาให้ความสนใจกับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดต่ำกว่า 500 ซีซี. มากยิ่งขึ้นเป็นเท่าตัว ด้วยเหตุผลหลักด้านราคาที่เข้าถึงง่าย และจับต้องได้ ผนวกกับเทคโนโลยี และสมรรถนะของตัวรถ ที่ทางค่ายได้พัฒนา และบรรจุลงในตัวรถจนเทียบเท่ากับเทคโนโลยีรถ Big Bike เลยก็ว่าได้ เพียงแต่มีขนาดเครื่องยนต์ที่ต่ำกว่า 500 ซีซี. เท่านั้น

          และหากพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์ขนาดต่่ำกว่า 500 ซีซี. ที่มีความน่าสนใจ ในงบประมาณไม่เกิน 200,000 บาท ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า Naked Bike อย่าง BMW G310R และ KTM 390 Duke รวมไปถึง Sport Bike รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Kawasaki Ninja 400 นั้น ได้รับความน่าสนใจเป็นอับดับต้นๆ ของคลาสนี้ ซึ่งการเปรียบเทียบในครั้งนี้ ทางทีมงาน BoxzaRacing ขอข้ามเรื่องสายพันธุ์ และสไตล์ของรถที่แตกต่างกัน หากแต่จะมองหาความคุ้มค่าของงบประมาณไม่เกิน 200,000 บาท ว่ารุ่นใดจะเหมาะสม และคุ้มค่ามากว่ากัน

 

BMW G310R

 

ไฟหน้าโคมเดี่ยว พร้อมไฟเลี้ยวแยก

 

          เรามาเริ่มกันที่ BMW G310R กันก่อนเลยดีกว่า ซึ่ง G310R นั้น ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกของค่าย BMW ที่มีขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 500 ซีซี. มาในสไตล์แบบ Naked Bike แต่ทางค่ายให้คำนิยามว่า Roadster เน้นการขับขี่ที่คล่องตัว ด้วยตัวรถที่มีน้ำหนักทั้งหมดเพียง 158.5 กก. เท่านั้น ด้านมิติตัวรถมีความยาวที่ 2,005 มม. ความกว้าง 820 มม. และความสูง 1,080 มม. กับขนาดความสูงของเบาะที่ 785 มม. ซึ่งเหมาะกับสรีระของคนไทย และสามารถขับขี่ได้อย่างถนัดมือ ส่วนด้านดีไซน์ของไม่ต้องพูดอะไรกันมาก หล่อ หรู ดูดี มีระดับสไตล์ BMW

 

โช้คอัพหน้า Upside Down ขนาด 41 มม. จาก KYB ระบบเบรค Bybre แบบ Radial Mount 4 Pot

 

          เฟรมรถเป็นแบบ Bolted steel frame และด้านหลังแบบ Tubular steel frame โช้คอัพด้านหน้าแบบ Upside Down ขนาด 41 มม. จาก KYB และด้านหลังแบบ Monoshock จาก KYB ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มหลังอลูมิเนียมแบบยาวพิเศษ ที่ทำให้การขับขี่มีความนิ่ง และสมดุลกว่า ผสานกับระบบเบรคที่จัดเต็มจาก Bybre แบบ Radial Mount 4 Pot ที่ด้านหน้า และด้านหลังแบบ 1 Pot พร้อมติดตั้งระบบ ABS ทั้งหน้า-หลัง มาให้พร้อมจากโรงงาน

 

เครื่องยนต์แบบ 1 สูบ ขนาด 313 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ สมรรถนะสูงสุด 34 แรงม้า

 

          ด้านสมรรถนะขุมพลัง BMW G310R มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 1 สูบ ขนาด 313 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดไฟฟ้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด Constant Mesh คลัชท์มือ ให้สมรรถนะสูงสุด 34 แรงม้า ที่ 9,500 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 28 นิวตัน-เมตร ที่ 7,500 รอบ/นาที ซึงทำความเร็วสูงสุดได้ 158 กม./ชม. (จากการทดลองขี่เอง) ในบทความ "บททดสอบ Roadster Model To Experience"

 

BMW G310R มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 199,000 บาท

 

          สำหรับ BMW G310R นั้น มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 199,000 บาท ซึ่งหากเทียบจากอ็อพชั่นที่มีมาให้ และดีไซน์โดยรวม ผสานกับการได้ครอบครองมอเตอร์ไซค์แบรนด์ BMW ก็ถือว่าเป็นราคาที่เร้าใจ และจ่ายได้อย่างไม่คาแคลงใจ

 

KTM Duke390

 

          มาต่อกันที่น้องใหม่แห่งความเร้าใจ ที่มาเขย่าวงการ Naked Bike พิกัดต่ำกว่า 500 ซีซี. ให้สั่นสะเทือน กับ KTM 390 Duke ที่มาพร้อมกับดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวเร้าใจ เริ่มจากชุดไฟหน้าแบบ LED ใหม่ที่โดดเด่นสะดุดตา ให้ความรู้สึกดุดัน มีรูปทรงของตัวถังที่แข็งแรง โฉบเฉี่ยว และเฉียบคมยิ่งขึ้น พร้อมส่วนของเบาะนั่งที่เผยโครงรถในมิติที่ดูสปอร์ตมากขึ้น รวมถึงเฟรม Bolt-on Subframe แบบใหม่ที่ดูโดดเด่นกว่าเดิม ส่วนการออกแบบทางสรีระศาสตร์ของมอเตอร์ไซค์พันธุ์ดุรุ่นนี้ ได้รับการปรับเปลี่ยนด้วยเช่นกัน ด้วยท่านั่งที่เอื้อให้ควบคุมรถได้ดีขึ้นแต่ยังคงความสบายในการขับขี่ และเสริมให้ดียิ่งขึ้นด้วยการปรับปรุงที่นั่งของผู้ขับขี่ และผู้ซ้อนท้าย ขณะที่ถังน้ำมันนั้นเพิ่มความจุมากขึ้นเป็น 13.4 ลิตร (มากกว่าเดิมถึง 2.4 ลิตร) นอกจากจะพาผู้ขับขี่ไปได้ไกลกว่าเดิมแล้ว ยังช่วยให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสและรับรู้ความรู้สึกกับมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ดุรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ได้ดียิ่งขึ้น

 

จอควบคุมแบบ TFT Display แบบมัลติฟังก์ชั่น ที่สามารถติดตั้งแพ็คเกจเสริม KTM MY RIDE ได้

 

          KTM 390 Duke โดดเด่นด้วยสุดยอดจอควบคุมแบบ “TFT Display” แบบมัลติฟังก์ชั่นอเนกประสงค์ และอินเตอร์เฟสสุดล้ำ ช่วยยกระดับการแสดงข้อมูลการขับขี่อีกขั้น และมี KTM MY RIDE เป็นแพ็คเกจเสริมที่สามารถติดตั้งเพิ่มได้ โดยระบบ KTM MY RIDE นี้ สามารถเชื่อมต่อบลูทูธผสานการทำงานกับสมาร์ทโฟนเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้โทรศัพท์ได้ในแบบแฮนด์ฟรี รวมถึงฟังเพลงอย่างเพลิดเพลินขณะขับขี่ได้โดยผสานการทำงานเข้ากับหน้าจอ TFT ซึ่งสั่งงานได้จากปุ่มเมนูบนแฮนด์ของรถ

 

ระบบช่วงล่างจัดเต็มจาก WP Suspension และเบรคจาก Bybre

 

          สำหรับระบบช่วงล่างของ KTM 390 Duke นั้น มาพร้อมกับโช้คอัพหน้าแบบ Upside Down ขนาด 43 มม. จาก WP Suspension ที่มาพร้อมระบบดูดซับแรงสะเทือนที่ใช้เทคโนโลยี Open-cartridge Fork และลูกสูบแยก ด้านหลังแบบ Mono Shock จาก WP ที่ปรับค่าความแข็ง-อ่อนได้ถึง 5 ระดับ ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม ส่วนระบบเบรคด้านหน้าเป็นของ Bybre แบบ Radial Mount 4 Pot และด้านหลังเป็น Bybre 1 Pot ที่มาพร้อมกับระบบ ABS ทั้งหน้า-หลัง ที่สามารถสั่งปิดการใช้งานได้ เพื่อการขับขี่แบบ Supermoto

 

KTM 390 Duke มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1 สูบ ขนาด 373.2 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว 44 แรงม้า พร้อมติดตั้งระบบ Slipper Clutch และคันเร่งไฟฟ้า Ride By Wire

 

          ด้านขุมพลัง KTM 390 Duke มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1 สูบ ขนาด 373.2 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 89 x 60 มม. ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านระบบหัวฉีด คันเร่งไฟฟ้า Ride By Wire ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์ 6 สปีด พร้อมระบบ Slipper Clutch มอบสมรรถนะสูงสุด 44 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 37 นิวตัน-เมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 175 กม./ชม. (สำหรับเจนเนอเรชั่นก่อนที่ BoxzaRacing เคยได้ทดลองขี่ไปก่อนหน้านี้)

 

KTM 390 Duke ราคาจำหน่ายช่วงแนะนำวันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2560 ในราคา 199,900 บาท

 

          สำหรับ KTM 390 Duke นั้น ได้ประกาศราคาจำหน่ายช่วงแนะนำวันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2560 ในราคาเพียง 199,900 บาท พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้น 1, ทะเบียน และ พรบ. ซึ่งถือเป็นราคาที่ช็อคทั้งวงการ หากเปรียบเทียบราคาพิเศษช่วงแนะนำ กับสมรรถนะ และเทคโนโลยีที่บรรจุใน KTM 390 Duke แล้ว ณ เวลานี้ ไม่มีรุ่นไหนที่จะชวนควักกระเป๋าตังค์ไปมากกว่านี้อีกแล้ว

 

Kawasaki Ninja 400

 

          ปิดท้ายกันที่การเปรียบเทียบข้ามสายพันธุ์ ที่มีดีกรีความเร้าใจ และความคุ้มค่าของรถในระดับต่ำกว่า 500 ซีซี. ไม่แพ้กัน กับรถ Sport Bike น้องใหม่ล่าสุด ภายใต้ความเร้าใจของสายรหัส Ninja กับ Kawasaki Ninja 400 ซึ่งถือเป็นการขยับไซส์ มาเล่นข้ามรุ่นกันบ้าง หลังจากที่ Ninja 300 ครองส่วนแบ่งการตลาดมาอย่างยาวนาน จนทำให้การอัพเกรดใหม่ในครั้งนี้ ทางค่ายยักษ์เขียวเลือกที่จะขยับ cc. มาเป็นจุดขายใหม่

 

ไฟหน้าแบบ LED แยก 2 โคม ตามแบบฉบับของตระกูล Ninja

 

หน้าปัดเรือนไมล์แบบดิจิตอลผสมอนาล็อก ดีไซน์โดดเด่นล้ำสมัย พร้อมมีไฟแสดงตำแหน่งเกียร์ และ Shift Light

 

          สำหรับ Kawasaki Ninja 400 นั้น มาพร้อมกับดีไซน์ Sport เร้าใจรอบทั้งคัน ซึ่งได้รับการถ่ายทอด DNA มาจาก Ninja H2 เลยทีเดียว เริ่มจากไฟหน้าแบบ LED แยก 2 โคม ตามแบบฉบับของตระกูล Ninja แฮนด์แบบจับโช้คอัพ หน้าปัดเรือนไมล์แบบดิจิตอล ผสมอนาล็อก ดีไซน์โดดเด่นล้ำสมัย พร้อมมีไฟแสดงตำแหน่งเกียร์ และ Shift Light ถังน้ำมันดีไซน์ใหม่ขนาดใหญ่ถึง 14 ลิตร เบาะนั่งแบบ 2 ตอน ยกระดับผู้ซ้อนท้ายแบบรถ Sport Bike ปิดท้ายด้วยไฟท้ายทรงแหลมแบบ LED

 

ช่วงล่างแบบ Telescopic และด้านหลังแบบ Mono Shock ระบบเบรคจาก Nissin พร้อม ABS หน้า-หลัง

 

          ด้านมิติตัวรถของ Kawasaki Ninja 400 มีความยาวอยู่ที่ 1,990 มม. ความสูง 1,120 มม. ความกว้าง 710 มม. ระดับความสูงของเบาะนั่ง 785 มม. ระยะฐานล้อ 1,370 มม. และมีน้ำหนักตัวรถที่ 168 กก. ซึ่งมาพร้อมกับระบบช่วงล่างแบบ Telescopic ขนาด 41 มม. และด้านหลังแบบ Mono Shock แบบมี Sub Tank ทำงานร่วมกับกระเดืองสวิงอาร์ม Uni-Trak ส่วนระบบเบรคด้านหน้าเป็นปั้มเบรคของ Nissan ขนาด 2 Pot และด้านหลังเป็น Nissin ขนาด 1 Pot พร้อมระบบเบรค ABS ทั้งหน้า และหลัง

 

Kawasaki Ninja 400 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 399 ซีซี. DOHC 8 วาล์ว 45 แรงม้า

 

          สำหรับขุมพลังของ Kawasaki Ninja 400 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบ ขนาด 399 ซีซี. DOHC 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 70 x 51.8 มม. กำลังอัด 11.5:1 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 สปีด พร้อม Slipper Clutch มอบสมรรถนะสูงสุด 45 แรงม้า ที่ 10,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 38 นิวตัน-เมตร ที่ 8,000 รอบ/นาที

 

Kawasaki Ninja 400 ราคา 196,000 บาท สำหรับรุ่น STD ส่วนในรุ่นสีพิเศษ Special Colours ราคา 205,000 บาท

 

          สำหรับ Kawasaki Ninja400 ประกาศราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 196,000 บาท สำหรับรุ่น STD ที่มาพร้อมกับสีน้ำเงิน และสีดำ ส่วนในรุ่นสีพิเศษ Special Colours ราคา 205,000 บาท ซึ่งจะมาพร้อมลาย KRT Edition และสีแดง โดยจะเปิดตัว พร้อมเปิดโอกาสให้จับจองเป็นเจ้าของกันที่งาน Motor Expo 2017 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1-11 ธันวาคม 2560

 

เปรียบเทียบกันชอตต่อชอต

 

เปรียบเทียบทุกซอกทุกมุม

 

รายละเอียดพื้นฐาน BMW G310R vs. KTM 390 Duke vs. Kawasaki Ninja400

รายละเอียดพื้นฐาน

BMW G310R KTM 390 Duke Kawasaki Ninja400
เครื่องยนต์  1 สูบ  1 สูบเรียง  2 สูบ
ปริมาตรกระบอกสูบ  313 ซีซี.  373.2 ซีซี. 399 ซีซี.
ระบบวาล์ว DOHC 4 วาล์ว DOHC 4 วาล์ว DOHC 8 วาล์ว
ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก -

89 mm. x 60 mm.

70 mm x 51.8 mm
แรงม้า  34 HP@ 9,500 Rpm

 44 Hp @ 9,000 rpm

45 HP @10,000 Rpm
แรงบิด 28 Nm @7,500 Rpm 37 Nm @ 7,000 rpm

38 Nm @8,000 Rpm

อัตราส่วนการอัด - - 11.5:1
ระบบเกียร์  Manual 6 Speed  Manual 6 Speed Manual 6 Speed 
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง Fuel Injection  Fuel injection Fuel injection 
ระบบสตาร์ท  สตาร์ทไฟฟ้า(มือ)  สตาร์ทไฟฟ้า(มือ) สตาร์ทไฟฟ้า(มือ) 
ระบบครัทช์  คลัทช์มือแบบเปียก Multiplate  คลัทช์มือแบบเปียกMultiplate คลัทช์มือแบบเปียกMultiplate 
ขนาดยางหน้า 110/70 R17 110/70 R17 110/70 R17
ขนาดยางหลัง 150/60 R17 150/70 R17 150/60 R17
โช๊คอัพหน้า Upside Down ขนาด 41 มม. จาก KYB

Upside Down ขนาด 43 มม. จาก WP

Telescopic 41 มม.
โช๊คอัพหลัง Monoshock จาก KYB Monoshock จาก WP ปรับ 5 ระดับ

Monoshock พร้อมแขนยึดยูนิแทรค ปรับได้ 5 ระดับ 

เบรกหน้า Bybre แบบ Radial Mount 4 Pot พร้อม ABS

Bybre แบบ Radial Mount 4 Pot พร้อม ABS

Nissin 2 Pot พร้อม ABS
เบรกหลัง Bybre 1 Pot พร้อม ABS

Bybre 1 Pot พร้อม ABS

Nissin 1 Pot พร้อม ABS

ยาวxกว้างxสูง 2,005 x 820 x 1,080 มม. 2,026 x 836 ×1,267 มม. 1,990 x 710 x 1,120 มม.
ความสูงเบาะ  785 mm. 830 mm. 785 mm.
น้ำหนักรถ 158.5 kg. 149 kg.  168 kg.
ความจุถังน้ำมัน  11 ลิตร  13.4 ลิตร  14 ลิตร
ราคา  199,000 บาท  199,900 บาท 196,000 - 205,000 บาท

 

Comment

          สำหรับใครที่กำลังสนใจ และหมายปองรถมอเตอร์ไซค์ขนาดไม่เกิน 500 ซีซี. ในงบประมาณที่ไม่เกิน 200,000 บาท ที่ทาง BoxzaRacing นำมา Battle กันในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น BMW G310R และ KTM 390 Duke และ Kawasaki Ninja 400 ซึ่งแต่ละรุ่นต่างก็มีข้อดี และข้อได้เปรียบกันไปในคนละด้าน ขึ้นอยู่กับความต้องการ และสไตล์การขับขี่คนแต่ละท่าน

          หากใครที่ชื่อชอบความเท่ อันสง่างาม ขับขี่ง่าย และคล่องตัว ผสานกับแบรนด์อันเป็นที่รู้จัก และพรีเมี่ยม BMW G310R ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด แต่หากใครใครที่ชื่นชอบรูปทรงที่ปราด ดุดัน เร้าใจ ผสานการขับขี่ที่มันส์แบบดิบๆ รวมไปถึงดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ KTM 390 Duke เป็นตัวเลือกที่สามารถตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่หากใครที่ชื่นชอบความเป็น Sport Bike เน้นการเดินทางไกล ที่สามารถเดินทางออกทริป และใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างสง่างาม ผสานความแรง ในราคาที่เอื้อมถึงไม่ยาก Kawasaki Ninja 400 ก็เป็นตัวเลือกแรกของรถ Sport Bike ในคลาสนี้ที่มิอาจปฏิเสธได้ลง

 

 

          สำหรับการเปรียบเทียบในครั้งนี้ของทั้ง 3 รุ่นดังกล่าว ดูเหมือนว่า KTM 390 Duke จะฉายแววโดดเด่นมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นด้านดีไซน์ เทคโนโลยี หรือแม้แต่สมรรถนะการขับขี่โดยรวม กับราคาที่เปิดตัวมาอย่างเร้าใจ ซึ่งหากให้เลือก 1 ใน 3 โมเดลนี้ ทางทีมงาน BoxzaRacing ขอเทใจให้ KTM 390 Duke แต่ !!! ก็ใช่ว่า BMW G310R และ Kawasaki Ninja 400 จะเป็นรถที่ไม่น่าสนใจ เพียงแต่มันขึ้นอยู่กับความชอบ และสไตล์การขับขี่ของแต่ละบุคคล ซึ่งหากจะพูดกันที่ความเร็วปลาย KTM 390 Duke ก็ไม่อาจเทียบขั้นได้กับเครื่อง 2 สูบ จาก Ninja 400 แต่หากเทียบราคากับแบรนด์ และความสง่างาม Ninja 400 ก็คงไม่ว้าวไปกว่า G310R หากไปจอดติดไฟแดงคู่กัน ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคุณรักค่ายไหน รุ่นไหน ในงบ 200,000 บาท ทั้ง 3 รุ่นนี้ ถือเป็นตัวเลือกที่ใจคุณต้องการอย่างแน่นอน 

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook