Honda CB300R vs. KTM 390Duke ศึก Naked Bike 1 สูบ ออพชั่นเทพ รุ่นไหนโดนใจกว่า

          กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความเปรียบเทียบรถมอเตอร์ไซค์ที่ ซึ่งในบทความนี้ ทางทีมงาน BoxzaRacing ขอนำเอา 2 รถ Naked Bike แบบ 1 สูบ ในสไตล์ และคาแร็คเตอร์ที่ต่างกันมาเปรียบเทียบ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนั้น ต่างก็เป็นโมเดลใหม่ที่พึ่งเปิดตัวกันไปสดๆ ร้อนๆ ในไทย จึงอยากช่วยทำให้ท่านที่กำลังสนใจ ได้มาหาข้อมูล และตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ส่วนทั้ง 2 รุ่น จะมีดีอย่างไร รุ่นไหนเหมาะกับใคร รุ่นไหนจะเป็นคำตอบที่ใช่ คุณเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสิน

Honda CB300R

          เรามาเริ่มกันที่น้องใหม่แห่ง Naked Bike เมืองไทยกันก่อนเลยดีกว่า กับ Honda CB300R ที่พึ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา โดยล่าสุดพึ่งมีการประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ กับราคาเริ่มต้นที่ 149,800 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่สั่นสะเทือนไปทั้งวงการเลยทีเดียว วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกกันว่าราคาระดับนี้ เทียบกับสมรรถนะของตัวรถ และออพชั่นที่บรรจุมาให้ จะคุ้มค่าขนาดไหน และพอจะขึ้นไปต่อกรกับ KTM 390 Duke ได้หรือไม่ ไปติดตามกัน

Honda CB300R มีน้ำหนักตัวรถเพียง 143 กก. เท่านั้น

          ทุกชิ้นส่วนของ Honda CB300R นั้นถูกออกแบบมาอย่างประณีต ด้วยการคัดเลือกแต่ละชิ้นส่วน และเทคโนโลยีขึ้นมาประกอบเป็นรถมอเตอร์ไซค์อย่างพิถีพิถันตามแบบฉบับงานคราฟต์ทำมือแบบญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของไฟหน้ากลม LED ที่โดดเด่นสะดุดตา เทเปอร์แฮนด์บาร์อะลูมิเนียมแบบ Fat Bar ถังน้ำมันดีไซน์โฉบเฉี่ยวกับความจุขนาด 10 ลิตร, ตัวรถเป็นแบบโครงถัก Daimound Frame แข็งแกร่ง น้ำหนักเบา, เบาะนั่งแบบ 2 ตอน ยกระดับผู้ซ้อนท้าย และไฟท้ายใหม่แบบ LED ซึ่ง Honda CB300R นั้น มาพร้อมกับมิติตัวรถที่คล่องตัว เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ กับความกว้างที่ 888 มม. ความยาวที่ 2,012 มม. ความสูงที่ 1,052 มม. ความสูงของเบาะ 799 มม. และมีน้ำหนักทั้งหมดเพียง 143 กก. เท่านั้น

เรือนไมล์ Full LCD Multifunction แสดงผลแบบดิจิทัล พร้อมไฟเตือนการเปลี่ยนเกียร์ Shift Light

          นอกจากนั้นแล้ว Honda CB300R ยังมาพร้อมกับเรือนไมล์ Full LCD Multifunction แสดงผลแบบดิจิทัล พร้อมไฟเตือนการเปลี่ยนเกียร์ Shift Light เมื่อรอบเครื่องยนต์สูงถึงช่วงที่กำหนด และฟังก์ชัน Peak Hold ที่ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างสนุกสนานยิ่งขึ้นซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความทันสมัยแต่ยังคงความน่าลุ่มหลงไปด้วยสไตล์สุดคลาสสิก

โช้คอัพหน้า Upside Down ขนาด 41 มม. จาก Show และปั้มเบรค Nissin แบบ Radial Mount 4 Pot พร้อมระบบ ABS G-Sensor

          อีกทั้ง Honda CB300R ยังมาพร้อมกับระบบช่วงล่างที่จัดเต็มเฉกเช่นในรถ Big Bike ไม่ว่าจะเป็นโช้คอัพหน้าแบบ Upside Down ขนาด 41 มม. จาก Showa และด้านหลังแบบ Monoshock จาก Showa ที่สามารถปรับระดับ Preload Adjustment ได้ถึง 7 ระดับ ส่วนระบบเบรคด้านหน้าเป็นแบบดิสก์เบรค พร้อมปั้มเบรค Nissin แบบ Radial Mount 4 Pot พร้อมระบบ ABS G-Sensor และด้านหลังเป็นปั้มเบรค Nissin 1 Pot

ท่อไอเสียใหม่ สะท้อนความเป็น Neo Sports Café และให้พลังเสียงที่เร้าใจ ทรงพลัง

          สำหรับขุมพลังเครื่องยนต์นั้น ยังคงใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกันกับ CBR300R, CB300F และ Rebel 300 กับเครื่องยนต์ 1 สูบ DOHC 4 วาล์ว ขนาด 286 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชักที่ 76 x 63 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 10.7:1 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI เอกสิทธิ์เฉพาะของ Honda แต่สิ่งที่แตกต่างออกไป และสร้างความโดดเด่นให้ Honda CB300R นั่นก็คือ ท่อไอเสียที่ถูกถ่ายทอด DNA มาจาก Honda Neo Sports Café Concept ที่ให้ซุ้มเสียงที่เร้าใจทรงพลัง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองด้านอัตราเร่งอีกด้วย

Honda CB300R ราคา 149,800 บาท

          สำหรับ Honda CB300R นั้น พึ่งได้รับการประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยเริ่มต้นที่ 149,800 บาท และสำหรับรุ่น CB300R H2C Street Fighter Edition ราคา 165,000 บาท (จำนวนจำกัดเพียง 500 คัน เท่านั้น) ซึ่งถือเป็นราคาที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด เมื่อเทียบกับราคาจำหน่ายของ Naked Bike พิกัด 300 ซีซี. อีกทั้งยังมีอ็อพชั่นที่เหนือชั้นกว่าอีกด้วย

KTM 390 Duke

          มาต่อกันที่น้องใหม่แห่งความเร้าใจในตระกูล Duke จากค่าย KTM กันบ้าง กับ KTM 390 Duke ที่มาพร้อมกับดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวเร้าใจ เริ่มจากชุดไฟหน้าแบบ LED ใหม่ที่โดดเด่นสะดุดตา ให้ความรู้สึกดุดัน มีรูปทรงของตัวถังที่แข็งแรง โฉบเฉี่ยว และเฉียบคมยิ่งขึ้น พร้อมส่วนของเบาะนั่งที่เผยโครงรถในมิติที่ดูสปอร์ตมากขึ้น รวมถึงเฟรม Bolt-on Subframe แบบใหม่ที่ดูโดดเด่นกว่าเดิม ส่วนการออกแบบทางสรีระศาสตร์ของมอเตอร์ไซค์พันธุ์ดุรุ่นนี้ ได้รับการปรับเปลี่ยนด้วยเช่นกัน ด้วยท่านั่งที่เอื้อให้ควบคุมรถได้ดีขึ้นแต่ยังคงความสบายในการขับขี่ และเสริมให้ดียิ่งขึ้นด้วยการปรับปรุงที่นั่งของผู้ขับขี่ และผู้ซ้อนท้าย ขณะที่ถังน้ำมันนั้นเพิ่มความจุมากขึ้นเป็น 13.4 ลิตร (มากกว่าเดิมถึง 2.4 ลิตร) นอกจากจะพาผู้ขับขี่ไปได้ไกลกว่าเดิมแล้ว ยังช่วยให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสและรับรู้ความรู้สึกกับมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์ดุรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ได้ดียิ่งขึ้น

จอควบคุมแบบ TFT Display แบบมัลติฟังก์ชั่น ที่สามารถติดตั้งแพ็คเกจเสริม KTM MY RIDE ได้

          KTM 390 Duke โดดเด่นด้วยสุดยอดจอควบคุมแบบ “TFT Display” แบบมัลติฟังก์ชั่นอเนกประสงค์ และอินเตอร์เฟสสุดล้ำ ช่วยยกระดับการแสดงข้อมูลการขับขี่อีกขั้น และมี KTM MY RIDE เป็นแพ็คเกจเสริมที่สามารถติดตั้งเพิ่มได้ โดยระบบ KTM MY RIDE นี้ สามารถเชื่อมต่อบลูทูธผสานการทำงานกับสมาร์ทโฟนเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้โทรศัพท์ได้ในแบบแฮนด์ฟรี รวมถึงฟังเพลงอย่างเพลิดเพลินขณะขับขี่ได้โดยผสานการทำงานเข้ากับหน้าจอ TFT ซึ่งสั่งงานได้จากปุ่มเมนูบนแฮนด์ของรถ

ระบบช่วงล่างจัดเต็มจาก WP Suspension และเบรคจาก Bybre

          สำหรับระบบช่วงล่างของ KTM 390 Duke นั้น มาพร้อมกับโช้คอัพหน้าแบบ Upside Down ขนาด 43 มม. จาก WP Suspension ที่มาพร้อมระบบดูดซับแรงสะเทือนที่ใช้เทคโนโลยี Open-cartridge Fork และลูกสูบแยก ด้านหลังแบบ Mono Shock จาก WP ที่ปรับค่าความแข็ง-อ่อนได้ถึง 5 ระดับ ทำงานร่วมกับสวิงอาร์ม ส่วนระบบเบรคด้านหน้าเป็นของ Bybre แบบ Radial Mount 4 Pot และด้านหลังเป็น Bybre 1 Pot ที่มาพร้อมกับระบบ ABS ทั้งหน้า-หลัง ที่สามารถสั่งปิดการใช้งานได้ เพื่อการขับขี่แบบ Supermoto

KTM 390 Duke มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1 สูบ ขนาด 373.2 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว 44 แรงม้า พร้อมติดตั้งระบบ Slipper Clutch และคันเร่งไฟฟ้า Ride By Wire

          ด้านขุมพลัง KTM 390 Duke มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1 สูบ ขนาด 373.2 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชักอยู่ที่ 89 x 60 มม. ระบายความร้อนด้วยน้ำ จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านระบบหัวฉีด คันเร่งไฟฟ้า Ride By Wire ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์ 6 สปีด พร้อมระบบ Slipper Clutch มอบสมรรถนะสูงสุด 44 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุดที่ 37 นิวตัน-เมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 175 กม./ชม. (สำหรับเจนเนอเรชั่นก่อนที่ BoxzaRacing เคยได้ทดลองขี่ไปก่อนหน้านี้)

KTM 390 Duke ราคา 209,900 บาท

          สำหรับ KTM 390 Duke นั้น มีราคาจำหน่ายที่ 209,900 บาท ซึ่งต่ำลงกว่าเจเนอเรชั่นก่อนหน้าด้วยซ้ำไป อีกทั้งยังมาพ้รอมกับการอัพเกรดครั้งยิ่งใหญ่ รวมไปถึงสมรรถนะ และเทคโนโลยีที่บรรจุมาให้อย่างครบครัน

เปรียบเทียบกันชอตต่อชอต

เปรียบเทียบกันทุกซอกทุกมุม

ตารางเปรียบเทียบข้อมูลพื้นฐาน Honda CB300R กับ KTM 390 Duke

Comment

          สำหรับใครที่สนใจ และหมายปองเจ้า Naked Bike ทั้ง 2 รุ่น ที่ทาง BoxzaRacing นำมา Battle กันในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Honda CB300R หรือ KTM 390 Duke ซึ่งแต่ละรุ่นต่างก็มีข้อดี และข้อได้เปรียบกันไปในคนละด้าน ขึ้นอยู่กับความต้องการ และสไตล์การขับขี่ของแต่ละท่าน

          หากใครที่ชื่นชอบ Naked Bike ที่มีความดุดัน ผสานสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจแบบดิบๆ รวมไปถึงความโดดเด่นในเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร KTM 390 Duke ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการตรงนี้ได้เหมาะสมกว่า แต่หากใครที่ชื่นชอบ Naked Bike ที่มาพร้อมกับความเท่ ในรูปลักษณ์อันสง่างาม ขับขี่ง่าย และคล่องตัว ผสานกับเทคโนโลยี และออพชั่นที่จัดเต็ม ภายใต้ราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า คงต้องยกให้เป็น Honda CB300R ในการตอบสนองความต้องการในครั้งนี้

          สำหรับการเปรียบเทียบกันในครั้งนี้ ดูเหมือนว่า Honda CB300R จะมีความน่าสนใจมากกว่าเล็กน้อย ด้วยเหตุผลหลักด้านราคาที่ถูกกว่าถึง 60,000 บาท ซึ่งสามารถนำไปต่อยอด หรือตกแต่งเพิ่มเติมได้ตามสไตล์ที่คุณต้องการ หรือจะอัพเกรดเพิ่มสมรรถนะให้เร้าใจขึ้นไปอีกระดับก็ยังได้ อีกทั้งอุปกรณ์เดิมๆ ที่ติดตั้งมาให้จากโรงงานก็ถือว่าเป็นอ็อพชั่นที่จัดเต็ม เทียบเท่ารถ Big Bike เลยทีเดียว แต่หากจะว่ากันด้วยความแรง และความเร้าใจ Honda CB300R ก็ไม่อาจสู้ KTM 390 Duke ได้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณแล้วว่า ความเท่, ราคา และความเร้าใจ อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการ ?