เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 9 มิถุนายน 2561 - 20:03

A.P. Honda Academy สานฝันปั้นนักบิดเยาวชนดาวรุ่งสู่ MotoGP น้องโฟกัส #4 ประเดิมคว้าโพลโพซิชั่น

 

          “น้องโฟกัส” ธีรไนย ทับทิม นักบิดเยาวชนวัย 12 ปี หมายเลข 4 ฉายแววรุ่งประเดิมคว้าโพลในศึก “เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี 2018” สนาม 3 ที่ จ.บุรีรัมย์ ขณะ “โค้ชฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ผู้ควบคุมการฝึกสอนปลื้มนักบิดรุ่นจิ๋วทำเวลาดีเกินคาด มั่นใจเดินตามโร้ดแม็ปนักบิดระดับโลกได้ในอนาคต

 

 

          โครงการสร้างนักบิดเยาวชนไทยสู่การเป็นนักแข่งระดับโลก “เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี 2018” เข้าสู่โปรแกรมสนามที่ 3 ของปี ดวลความเร็วกันที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เรซซิ่ง สคูล แอนด์ โกคาร์ท จ.บุรีรัมย์ ในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 9-10 มิถุนายนนี้ โดยถือเป็นสนามแรกของปีที่นักบิดเยาวชนหัวกะทิ 15 คน ของไทยจะต้องเริ่มเก็บคะแนนสะสมชิงแชมป์ประจำปี

 

 

          หลังผ่านการเตรียมความพร้อม 2 สนามแรก บรรดานักบิดเยาวชนทั้งสิ้น 15 คน ภายใต้โครงการ A.P. Honda Academy ต้องเดินทางเข้าสู่สังเวียนการเก็บคะแนนสะสมอย่างแท้จริง โดยนับเป็นการวางโปรแกรมได้อย่างลงตัวหลังจากที่ได้อุ่นเครื่องใหญ่ในช่วง 2 สนามที่ผ่านมา

          ในวันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน เป็นการแข่งขันในรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ทของการแข่งขันรอบชิงนะเลิศซึ่งจะมีขึ้นทั้งสิ้น 2 เรซในวันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน 2561

 

น้องโฟกัส” ธีรไนย ทับทิม หมายเลข 4 คว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่น

 

“น้องเลิฟ” ธีรเทพ ต้านชัง หมายเลข 9 ทำเวลามาเป็นอันดับที่ 2

 

          ผลการควอลิฟายปรากฏว่า “น้องโฟกัส” ธีรไนย ทับทิม หมายเลข 4 นักบิดดาวรุ่งวัย 12 ปี อาศัยการเรียนรู้ และปรับตัวเข้ากับสนามได้อย่างรวดเร็ว กดเวลามาเป็นอันดับ 1 คว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่น ในรอบซูเปอร์โพลมาครองได้สำเร็จด้วยเวลาต่อรอบ 41.361 วินาที ส่วนกริดที่ 2 เป็นของ “น้องเลิฟ” ธีรเทพ ต้านชัง หมายเลข 9 วัย 12 ปี ด้วยเวลาต่อรอบ 41.487 วินาที

 

โค้ชฟิล์ม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ผู้ควบคุมการฝึกสอน

 

          “โค้ชฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ผู้ควบคุมการฝึกสอน กล่าวภายหลังจบการแข่งขันรอบควอลิฟายว่า “ในวันนี้เราได้เห็นพัฒนาการที่ก้าวกระโดดของเด็กๆ ทั้ง 15 คน หลังจากผ่าน 2 สนามแรก จนมาถึงสนามที่ 3 พวกเขามีพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ปรับตัวเข้ากับสนามแข่งที่ไม่เคยลงแข่งได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อวานโค้ชทั้งหมดที่ทำหน้าที่ฝึกสอนให้เด็กๆ ได้ลงทำการทดสอบสนามเพื่อเก็บข้อมูลโดยละเอียด ปรากฏว่าในวันนี้มีเด็กๆ กว่าครึ่งหนึ่งทำเวลาได้เร็วกว่าที่โค้ชทำได้เสียด้วยซ้ำ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเด็กๆ ในโครงการ เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี 2018 ว่ามีแววที่จะพัฒนาต่อไปได้ในอนาคต”

 

 

          “โครงการของเราจะเน้นไปที่การปลูกฝังทักษะการขับขี่ที่ถูกต้อง ท่าทางในการขี่ การเข้าโค้ง การอ่านไลน์ การใช้เบรก และคันเร่ง รวมถึงการถ่ายเทน้ำหนักในการเข้าโค้ง ซึ่งสำคัญมากๆ ต่ออาชีพนักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ นอกจากนี้เรายังมีโปรแกรมการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมร่างกายให้เหมาะสมกับการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบ เพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกและปฏิบัติให้เป็นกิจวัตร จนเป็นการสร้างวินัยในแบบนักกีฬาอาชีพ”

 

 

          “โดยรวมในวันนี้เด็กๆ ทุกคนมีพัฒนาการที่ดีครับ เราจะค่อยๆ ป้อนความรู้ และทักษะต่างๆ เข้าไปเรื่อยๆ โดยที่ในแต่ละสนามจะมีโค้ชซึ่งเป็นนักแข่งในทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ซึ่งมีประสบการณ์การแข่งขันระดับนานาชาติมาเป็นผู้ฝึกสอนให้กับเด็กๆ ซึ่งจะมีส่วนช่วยเรียกจุดเด่น และศักยภาพของเขาออกมาได้อย่างเต็มที่” รัฐภาคย์ กล่าวปิดท้าย

 

Honda NSF100

 

          สำหรับโครงการ เอ.พี.ฮอนด้า อะคาเดมี ไทยแลนด์ จัดโดย บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้ริเริ่มโปรเจกต์บิดล่าฝันปั้นนักบิดเยาวชนไทยสู่ศึกการแข่งขันรถจักรยานยนต์ระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ครั้งแรกในเมืองไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อเฟ้นหาดาวรุ่งดวงใหม่ อายุระหว่าง 9-14 ปี จำนวน 15 คน เข้าร่วมโปรแกรมพัฒนาเป็นนักแข่งรถจักรยานยนต์มืออาชีพ เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยรถที่ใช้สำหรับการแข่งขันคือ เรซแมชชีน ฮอนด้า เอ็นเอสเอฟ100 (Honda NSF100) ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อทำการแข่งขันในสนามโดยเฉพาะ

 

 

          ทั้งนี้ การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศสนามที่ 3 ของ A.P. Honda Academy 2018 จะมีขึ้นทั้งสิ้น 2 เรซ ในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายนนี้ ที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เรซซิ่ง สคูล แอนด์ โกคาร์ท จ.บุรีรัมย์ โดยนับเป็นสนามแรกของปีที่มีการเก็บคะแนนสะสม

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook