บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดกิจกรรมการแข่งขันรายการเอ็นดูโร่ 3 ชั่วโมงในประเทศไทย ให้แก่กลุ่มลูกค้า และนักแข่งขันที่ต้องการความมันส์ และเร้าใจในสไตล์ Kawasaki เป็นรายกายแข่งขันที่ท้าทายทั้งร่างกาย จิตใจ และสมรรถนะรถจักรยานยนต์ บนสนามแข่งขันที่ออกแบบมาเพื่อกิจกรรมนี้โดยเฉพาะ สำหรับการแข่งขันรายการเอ็นดูโร่ 3 ชั่วโมง สนามที่ 3 ได้จัดขึ้นที่ KM 8 Riding Park จ.อุดรธานี ในวันที่ 23-24 กันยายน 2560
เริ่มต้นกิจกรรมวันแรกนั้นทางบริษัทฯ Kawasaki ได้เปิดอบรมการขับขี่รถจักรยานยนต์สไตล์เอ็นดูโร่ โดยมีอาจารย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยเป็นผู้ฝึกสอน ในช่วงเช้าจะเป็นภาคทฤษฎีแบบเข้มข้น ถ่ายทอดประสบการณ์ตรงสู่นักบิดสายเขียวทางฝุ่น พร้อมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นแบบจัดเต็ม ต่อด้วยช่วงบ่ายเป็นภาคปฏิบัติ ที่จะได้นำความรู้ที่ได้รับมาทดสอบความเข้าใจ และเข้าฐานทดสอบต่างๆ เพื่อฝึกฝน อาทิเรื่องการใช้เบรค, การใช้คันเร่ง, ท่าทางในการขับขี่เอ็นดูโร่, การเตรียมตัวสำหรับการขับขี่เอ็นดูโร่, การขับขี่พื้นทราย, การขับขี่ผ่านอุปสรรคธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งได้รับความสนใจจากพี่น้องโซนภาคอีสานเป็นจำนวนมาก
สำหรับวันที่ 2 นั้น เป็นการแข่งขันตลอดทั้งวัน โดยช่วงเช้าเป็นการแข่งขันแบบบุคคล กำหนดรอบการแข่งขัน ใครขี่ครบก่อนชนะ เริ่มต้นที่ Versys-X 300, ต่ำกว่า150cc, คาวาซากิ150cc ตามลำดับ โดยไฮไลท์ของรุ่น Versys-X 300 นั้นอยู่ที่ คุณกฤษณะ ภาคีแพทย์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด และการขาย ที่ได้เข้าร่วมลงแข่งขันในครั้งนี้ และกวาดรางวัลที่ 1 ของรุ่นไปได้อีกด้วย และต่อด้วยการแข่งขันแบบทีม เอ็นดูโร่ 1 ชั่วโมง รุ่น Adventure Open ที่เปิดโอกาสให้รถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ทุกค่ายเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อชิงชัย ส่วนช่วงบ่ายนั้นเป็นการแข่งขันแบบทีม เอ็นดูโร่ 3 ชั่วโมง ที่ผู้ชมรอคอย อีกทั้งยังมีฝนตกลงมาเพื่อสร้างอุปสรรคที่เพิ่มขึ้นของนักแข่ง การแข่งขันนี้นั้นต้องอาศัยทักษะ และทีมเวิร์ค ที่สำคัญคือความอึด เพื่อฝ่าฝันเอาชนะคู่แข่งและเก็บสะสมรอบการแข่งขันให้มากที่สุดเพื่อพิชิตถ้วยรางวัล ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักแข่งทั่วประเทศ
นอกเหนือจากการแข่งขันสุดมันส์ในสนามแข่งขันแล้วนั้น ทาง Kawasaki ยังได้นำรถจักรยานยนต์ Kawasaki หลากหลายรุ่นอาทิเช่น Versys-X 300, KLX250 และ KLX150BF มาให้ผู้ที่เข้าชมการแข่งขัน และผู้ที่สนใจได้ทดสอบอีกด้วย เพื่อให้ได้สัมผัสถึงสมรรถณะที่ยอดเยื่ยมของรถ
ทั้งนี้ต้องขอขอบพระคุณผู้สนับสนุนหลักของรายการแข่งขัน Real Helmet, IRC tire, D.I.D, Alpinestars, Ohlins, Touratech และสื่อมวลชนทุกท่านที่ได้ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมด้วยดีเสมอมา บริษัทฯ คาวาซากิหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบรับ และความร่วมมือจากทุกๆ ฝ่ายด้วยดีเฉกเช่นนี้ตลอดไป และพบกันอีกครั้งสนามถัดไป วันที่ 16-17 ธันวาคม นี้ ณ สนามฟิชชิ่งปาร์ค บ่อดิน กรุงเทพฯ
