Royal Enfield ผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางระดับโลก ประกาศให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางหรือฮับของการดำเนินธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเปิดสำนักงานแห่งใหม่บนชั้น 21 อาคารไซเบอร์เวิลด์ ทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก สำนักงานแห่งใหม่นี้จะมีการดำเนินงานร่วมกับสำนักงานใหญ่ของ Royal Enfield ในประเทศอินเดียโดยตรง มุ่งขยายธุรกิจระดับภูมิภาคในอาเซียนสำนักงานระดับภูมิภาคอาเซียนของ Royal Enfield ในประเทศไทยบริหารงานโดย วิมัล ซุมบ์ลี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก Royal Enfield และ หม่อมหลวง กมลชาติ ประวิตร ผู้จัดการ Royal Enfield ประจำประเทศไทย ซึ่งจะรับผิดชอบการปฏิบัติงานของบริษัทฯ ทั้งในด้านการตลาด การสื่อสาร การขาย การรับประกัน การบริการ การพัฒนาผู้จัดจำหน่าย และการเงิน
วิมัล ซุมบ์ลี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก Royal Enfield
วิมัล ซุมบ์ลี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก Royal Enfield กล่าวว่า “เราให้ความสำคัญกับการรักษาและขยายธุรกิจของเราในตลาดระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Royal Enfield มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วยอัตราการขยายตัว 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ตำแหน่งที่ตั้งของประเทศไทยมีความโดดเด่นและเหมาะสมที่จะเป็นศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แวดล้อมด้วยตลาดสำคัญของ Royal Enfield อย่างอินโดนีเซีย กลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ อีกทั้งยังสะดวกต่อการทำงานร่วมกับอินเดีย จีน ญี่ปุ่น ตลอดจนเกาหลีใต้ ทำให้ประเทศไทยมีความเหมาะสมที่สุดในอาเซียนที่จะเป็นศูนย์กลางสำหรับการขยายธุรกิจของเราในภูมิภาคนี้”
Royal Enfield ประเทศไทยเป็นบริษัทย่อยลำดับที่ 3 ของ Royal Enfield ที่ตั้งอยู่นอกประเทศอินเดียต่อจาก Royal Enfield อเมริกาเหนือ ตั้งอยู่ในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน และ Royal Enfield บราซิลซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยสำนักงานใหญ่ระดับโลกจะยังคงอยู่ในเมืองเชนไน ประเทศอินเดีย “ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยผงาดขึ้นเป็นตลาด ‘ที่มีความสำคัญอันดับ 1’ ของ Royal Enfield ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยอัตราเติบโตที่สูงที่สุด มีการก่อตั้งบริษัทลูกในประเทศ ประกาศการประกอบรถในประเทศไทยในอนาคต โดยในอีก 6 เดือนข้างหน้า เราวางแผนเปิดตัวร้านจัดจำหน่ายในหลายเมืองสำคัญทั่วประเทศไทย เรากำลังมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งที่จะสร้างการรับรู้ในแบรนด์ให้มากที่สุดและยกระดับการขายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ปัจจุบัน เราให้ความสำคัญที่สุดกับการขยายธุรกิจและเดินหน้าสู่การเปิดตัวผู้จัดจำหน่าย 4 แห่งใหม่ในหลายภาคของประเทศไทยภายในเดือนหน้า”
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Royal Enfield แบรนด์รถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษที่มีอายุ 118 ปี ได้ปฏิบัติงานครบ 3 ปีในประเทศไทย และประกาศแผนเชิงรุกที่จะขยายผู้จัดจำหน่ายแบบสแตนอโลนเพิ่มเป็นประมาณ 15 แห่งและศูนย์บริการที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการอีก 25 แห่งภายในเดือนมีนาคม 2563 เครือข่ายที่ครอบคลุมมากขึ้นจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายขึ้น ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้ง ภูเก็ต พัทยา หาดใหญ่ และเชียงใหม่ รวมถึงหัวเมืองใหญ่อื่นๆ...Royal Enfield ยังเล็งเห็นถึงความต้องการที่พุ่งสูงในประเทศไทยในปี 2562 หลังจากเปิดตัวรถจักรยานยนต์สูบคู่รุ่นใหม่ทั้ง Interceptor 650 และ Continental GT 650 ซึ่งทำยอดขายสูงที่สุดของ Royal Enfield ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนับตั้งแต่เปิดตัว
หม่อมหลวงกมลชาติ ประวิตร ผู้จัดการ Royal Enfield ประจำประเทศไทย
หม่อมหลวงกมลชาติ ประวิตร ผู้จัดการ Royal Enfield ประจำประเทศไทย รับผิดชอบในการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์และแบรนด์ Royal Enfield โดยมีเป้าหมายสร้างการเติบโตให้แก่กลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในประเทศไทย ก่อนร่วมงานกับ Royal Enfield หม่อมหลวง กมลชาติ เคยทำงานในบริษัทรถยนต์หลายแห่งด้วยประสบการณ์ในระดับบริหารที่นานกว่า 10 ปี โดย ม.ล.กมลชาติ กล่าวว่า “สำนักงานแห่งใหม่คือก้าวสำคัญของการมุ่งสู่การเติบโตของ Royal Enfield ในประเทศไทย เรามีความตื่นเต้นที่ได้สร้างรากฐานอันมั่นคงที่นี่ ด้วยการสนับสนุนจากทีมงานอันแข็งแกร่งที่มีประสบการณ์ในตลาดรถจักรยานยนต์ของประเทศไทยมานานกว่าทศวรรษ เซกเมนท์รถจักรยานยนต์ขนาดกลางยังขาดทางเลือกที่น่าดึงดูดใจ เราจึงมีโอกาสที่ดีที่จะได้เติมเต็มและตอบสนองความต้องการของลูกค้าในอนาคตได้อย่างใกล้ชิดและตรงใจด้วยการปรับการปฏิบัติงานของเราให้ตรงกับตลาดมากที่สุด”
