บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ประกาศเดินเกมรุกตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทยในปี 2565 หลังชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 16.5% ได้สำเร็จในปีที่ผ่านมา ตอกย้ำคุณภาพสินค้ารับประกัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร สร้างความเชื่อมั่นในตราสินค้าและคุณภาพบริการหลังการขาย เสริมสินค้าใหม่ 4 รุ่น ครอบคลุมทุกการใช้งาน รุกตลาดตั้งเป้า 287,000 คัน หวังขยับส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 17.5% ในปีนี้ พร้อมเดินหน้าปรับโฉมใหม่โชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับตราสินค้า
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “สำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2564 ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19 พอสมควร แต่ยามาฮ่าสามารถปรับตัวและทำกลยุทธ์การตลาดให้เข้ากับสถานการณ์ การแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี ทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดย ยอดจดทะเบียนรวมปิดตัวเลขอยู่ที่ 1.61 ล้านคัน เติบโตจากปีที่ผ่านมา 6% โดยเป็นยอดจดทะเบียนของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าทั้งสิ้น 266,000 คัน เพิ่มขึ้นถึง 11% เมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโต ที่เหนือกว่าภาพรวมของตลาด ทั้งยังสามารถขยับส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 16.5% ซึ่งการเติบโตขึ้นของยามาฮ่าเป็นผลจากการเดินหน้านโยบายด้านการขายและการทำตลาดอย่างเข้มข้น"
สำหรับในปี 2565 นี้ คาดการณ์ว่าภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์จะเพิ่มขึ้นจากปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 2% หรือประมาณ 1.64 ล้านคัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีจากการคาดการณ์การลงทุนของภาครัฐ ที่เพิ่มขึ้น การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีความรุนแรงลดลง รวมทั้งระบบเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวฟื้นตัว
โดย Yamaha ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 287,000 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 8% เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา และจะขยับส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 17.5% โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ รวมถึงกลยุทธ์ การขายและการตลาด เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่ง และทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเติบโตเพิ่มขึ้น โดยมุ่งเน้นที่จะพัฒนาภาพลักษณ์ของตราสินค้าผ่านหลักปรัชญา KANDO “วิถีอันเป็นเอกลักษณ์ของยามาฮ่า” พร้อมกับ Brand Slogan “Revs Your Heart” เร่งชีวิตให้เร้าใจ พร้อมรุกตลาด อย่างต่อเนื่องด้วย 5 กลยุทธ์หลักในการสร้างแบรนด์ ได้แก่
นายภาณุพล กิตติคำรณ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขายและการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จทั้งด้านการขาย การตลาดรวมถึงงานบริการประจำปี 2564 ว่า “ในปี 2564 ยามาฮ่าสามารถบรรลุเป้าหมายในการสร้างยอดขายและสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด จาก 15.8% เพิ่มขึ้นเป็น 16.5% ได้สำเร็จ โดยเฉพาะในกลุ่มรถครอบครัวขนาดต่ำกว่า 125 ซีซี ที่สามารถเพิ่ม ส่วนแบ่งการตลาดจาก 6.5% ขยับขึ้นมาเป็น 9% สำหรับในกลุ่มรถสปอร์ต และรถออโตเมติก Yamaha เติบโตได้เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลของการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่า รถจักรยานยนต์ Yamaha นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ด้วยการรับประกันรถจักรยานยนต์ทั้งคัน 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร ในรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดไม่เกิน 500 ซีซี ทุกรุ่น โดยเฉพาะในกลุ่มรถครอบครัวอย่าง ”ยามาฮ่าฟินน์” ที่ Yamaha กล้าให้การรับประกันทุกชิ้นส่วนยาวนานถึง 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยามาฮ่ายังยกระดับการบริการลูกค้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ “Y-Connect” แอปพลิเคชันเพื่อชีวิตสมาร์ทสุดล้ำที่มีขึ้นครั้งแรกของประเทศไทย ในรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า All New YAMAHA AEROX และ New NMAX Connected โดยในปีที่ผ่านมาแอปพลิเคชัน “Y-Connect” มีผู้ใช้งานมากกว่า 25,000 คน แสดงให้เห็นถึงความนิยมของผู้ใช้งาน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ ของยามาฮ่า และในปี 2564 ยามาฮ่ายังคงเสริมความแข็งแกร่งด้านการขายและการบริการ ด้วยการปรับรูปแบบใหม่ของโชว์รูมยามาฮ่า ภายใต้คอนเซปต์ “Move faster, Move further, Move together with Yamaha” ที่ได้เปิดบริการนำร่องไปแล้ว 9 โชว์รูมทั่วประเทศ ทั้งนี้ โชว์รูมยามาฮ่ารูปแบบใหม่จะสามารถตอบสนองและสร้าง Customer Experience ที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์ของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ด้วยกิจกรรมทางการตลาดและมุ่งเน้นการบริการหลังการขายในระดับพรีเมี่ยมให้กับลูกค้าของ Yamaha
พร้อมกันนี้ Yamaha เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งของกลยุทธ์การตลาดโดยมุ่งเน้นในกลุ่มประเภทสินค้าต่างๆ ดังนี้
สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข้อมูลข่าวสารทางออนไลน์ได้ที่ www.yamaha-motor.co.th / Facebook: Yamaha Society Thailand / Instagram: @YamahaSocietyThailand / YouTube: Yamaha Society Thailand