วิสัยทัศน์ของฮอนด้าในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2040 ได้ก้าวไปข้างหน้าเมื่อจักรยานยนต์ไฟฟ้า EM1 e คันแรกเข้าสู่ตลาดในสหราชอาณาจักร ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้งานในเมืองเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาที่กำลังมองหารถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไว้ใช้งานในชีวิตประจำวัน
Honda EM1 E ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 1.7 กิโลวัตต์ (ประมาณ 2.3 แรงม้า) และมีแรงบิดสูงสุดถึง 90 นิวตันเมตร (แรงบิดเยอะกว่ารถบิ๊กไบค์บางรุ่นเสียอีก) สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 45 กม./ชม.
ด้านพลังงานตัวรถจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนน้ำหนัก 10.3 กก. ความจุ 50.3 โวลต์สามารถถอดออกได้ซึ่งสามารถสับเปลี่ยนแบตได้ใน Honda Mobile Power Pack ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่จะใช้เวลาหกชั่วโมงในการชาร์จจากแบตเตอรี่หมดจนเต็ม และ 160 นาทีจาก 25% เป็น 75% และสามารถชาร์จจากปลั๊กไฟบ้านได้
ระบบกันสั่นสะเทือนโช้คหน้าแบบเทเลสโคปิกขนาด 31 มม. จับคู่กับโช้คอัพหลังคู่เพื่อซับแรงกระแทกระหว่างการเดินทาง พร้อมด้วยวงล้อหน้าขนาด 12 นิ้วทำจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา ส่วนล้อหลังขนาด 10 นิ้วเป็นแบบผสมเหล็ก/อะลูมิเนียม
ด้านระบบเบรกจะเป็นคอมบาย (CBS) ซึ่งประกอบด้วยดิสก์หน้าคาลิปเปอร์ลูกสูบเดี่ยวขนาด 190 มม. และด้านหลังดรัมขนาด 110 มม. เมื่อเบรกหลังทำงาน CBS จะกระจายกำลังเบรกไปยังคาลิเปอร์หน้า เพื่อการหยุดและชะลอที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ด้วยความสูงของเบาะนั่ง 740 มม. EM1 e ผู้ขับขี่ที่ไม่สูงมากหรือผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็สามารถขับขี่ได้อย่างสบายๆ และเมื่อรวมกับน้ำหนักรถเพียง 95 กก. การควบคุมบังคับทิศทางสามารถทำได้ง่ายๆ
ฟังก์ชั่นใช้งาน
Honda EM1 e อัดแน่นไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็นที่เก็บของใต้เบาะขนาด 3.3 ลิตร, พอร์ตชาร์จ USB, ไฟ LED รอบคัน, ที่แขวนกระเป๋า, ราวจับ และที่พักเท้าคนซ้อนท้ายแบบพับได้
5 จุดเด่น Honda EM1 e
และนี่ก็เป็น Honda EM1 e หนึ่งในรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจากฮอนด้าที่เข้าสู่ท้องตลาดในสหราชอาณาจักรส่วนราคาตอนนี้ยังไม่ได้มีการเปิดเผยออกมา แต่ต้องบอกเลยว่าในต่างประเทศโดยเฉพาะโซนยุโรปนั้นรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้านั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังได้พัฒนาสถานีชาร์จครอบคลุมทุกพื้นที่เพื่อรองรับการใช้งานอย่างทั่วถึงไม่ว่าจะเป็นรถสองล้อหรือสี่ล้อ ก็สบายหายห่วงเรื่องพลังงาน แต่หากถามว่าในอนาคตประเทศไทยจะมีเข้ามาทำตลาดด้วยหรือไม่ ก็ต้องบอกเลยว่าสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าฮอนด้ามีมาแน่แต่จะเมื่อไหร่ก็ต้องอดใจรอกันอีกยาวๆ