บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (Arun Plus) และ บริษัท Kwang Yang Motor Company Limited (KYMCO) และ บริษัท KYMCO CAPITAL PRIVATE EQUITY MANAGEMENT Company Limited (KC บริษัทย่อยที่ KYMCO ถือหุ้น) ลงนามสัญญาร่วมทุนเพื่อจัดตั้ง บริษัท เอไอออเนกซ์ จำกัด (Aionex) บริษัทร่วมทุนที่ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่าย และผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงให้บริการสถานีสลับแบตเตอรี่สำหรับจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสกับนวัตกรรมการขับขี่ที่ทันสมัยภายใต้แบรนด์ KYMCO แบรนด์สากลระดับโลก ซึ่ง KYMCO เป็นผู้ผลิตจักรยานยนต์ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจจักรยานยนต์มากว่า 60 ปี และมีผลิตภัณฑ์จักรยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรูปแบบที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับขี่ทุกกลุ่ม ด้วยกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าตั้งแต่ 0.8 กิโลวัตต์ ถึง 8.3 กิโลวัตต์ จึงสามารถสร้างความเพลิดเพลินในการขับขี่และการใช้งานที่หลากหลายกว่าเดิม และยังมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า ทั้งนี้ การร่วมทุนดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนตามสัญญาร่วมทุนสำเร็จครบถ้วน ซึ่งรวมถึงการได้รับอนุมัติ ความยินยอม หรือการผ่อนผันที่จำเป็นสำหรับการร่วมทุนดังกล่าวจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องสำเร็จครบถ้วน
นายเอกชัย ยิ้มสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด กล่าวว่า “Aionex เกิดขึ้นจากการพัฒนาธุรกิจร่วมกันระหว่าง Arun Plus กับ KYMCO Group ที่เล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจในตลาดจักรยานยนต์ของประเทศไทยซึ่งมีผู้ใช้งานมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเมื่อเทียบกับสัดส่วนครัวเรือนภายในประเทศและมีจักรยานยนต์สะสมในประเทศประมาณ 22 ล้านคัน ตัวเลขสถิติเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อการใช้งานจักรยานยนต์ ซึ่งจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นนวัตกรรมการขับขี่สมัยใหม่ที่ Arun Plus เล็งเห็นว่าสามารถเข้ามาสร้างความแตกต่างในตลาดจักรยานยนต์ของบ้านเราได้ จึงได้ร่วมมือกับ KYMCO Group ผู้ผลิตแบรนด์จักรยานยนต์ระดับโลก ซึ่งมีจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทั้งพฤติกรรมของผู้ขับขี่ไทยในปัจจุบันและช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน อีกทั้งจักรยานยนต์ของ KYMCO มีความเป็น state of art ที่โดดเด่นเพราะมีพื้นฐานการออกแบบมาจากรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์สันดาป จึงสามารถให้บริการบำรุงรักษารถได้อย่างต่อเนื่องผ่านเครือข่ายจุดซ่อมบำรุงของกลุ่ม ปตท. และพันธมิตร
นอกเหนือจากจักรยานยนต์ไฟฟ้า KYMCO แล้ว Aionex ยังมีแผนติดตั้งสถานีสลับแบตเตอรี่สำหรับจักรยานยนต์ไฟฟ้า ionex จำนวน 300 สถานีภายในปี 2568 ทั้งภายในและภายนอกพื้นที่บริเวณสถานีน้ำมัน ปตท. โดยผู้ขับขี่จะได้รับประสบการณ์การใช้บริการสลับแบตเตอรี่แบบไม่ต้องรอชาร์จ และใช้เวลาสลับแบตเตอรี่เพียงไม่กี่วินาที ซึ่งบริการดังกล่าวมาพร้อมกับ Smart Application ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ในการค้นหาและเข้าใช้งานสถานีสลับแบตเตอรี่ เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสกับนวัตกรรมการขับขี่สมัยใหม่เช่นเดียวกับที่จำหน่ายอยู่ในหลากหลายประเทศทั่วโลก
Aionex จะทำการส่งต่อองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีจาก KYMCO มาสู่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการภายในประเทศ และจะทำการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่ใหม่ๆ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมยกระดับให้ประเทศไทยมีศักยภาพและองค์ความรู้ในระดับสากล โดยจะเน้นการเลือกใช้ชิ้นส่วนและอะไหล่ที่ผลิตได้โดยผู้ประกอบการในประเทศ เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้มีความมั่นคงและเปี่ยมไปด้วยศักยภาพที่ทัดเทียมในระดับสากล ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือความตั้งใจของ Arun Plus และ KYMCO Group ที่อยากผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและจำหน่ายจักรยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนในอนาคต” นายเอกชัยกล่าว