เขียนโดย: Surasak

เมื่อ: 19 ตุลาคม 2566 - 17:42

ทำความรู้จัก คาร์บูเรเตอร์รถมอเตอร์ไซค์ อีกหนึ่งเทคโนโลยีจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง

      ปัจจุบันคาร์บูเรเตอร์รถมอเตอร์ไซค์แทบจะกลายเป็นเทคโนโลยีเก่าที่ตกยุคไปเรียบร้อยแล้ว โดยรถมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันจะเลือกใช้เทคโนโลยี ‘หัวฉีด’ ในการจ่ายน้ำเชื้อเพลิงเข้าสู่เครื่องยนต์ ซึ่งจุดเริ่มต้นความเปลี่ยนแปลงในเฉพาะในไทย ถูกเริ่มต้นขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2546 โดยมีทาง Honda เป็นผู้เลือกใช้เทคโนโลยีหัวฉีดกับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก (Honda Wave) เป็นครั้งแรกนั้นเอง

 

 

      หลังจากเทคโนโลยีหัวฉีดถูกนำมาใช้งานกับรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กแล้ว เทคโนโลยีคาร์บูเรเตอร์ก็ค่อยๆ เลือนหายไปจากรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ประกอบทางภาครัฐก็มีการปรับมาตรฐานไอเสียให้สูงขึ้นในทุกปี ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลโดยตรงกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

 

      ทั้งนี้เราต้องมาทำความรู้จักกับหน้าที่ของคาร์บูเรเตอร์เสียก่อน เพื่อใครที่ยังไม่รู้หรือเกิดไม่ทัน โดยคาร์บูเรเตอร์จะเป็นอุปกรณ์ที่จะนำอากาศและเชื้อเพลิงมาผสมกัน ก่อนที่จะส่งเข้าเครื่องยนต์เพื่อจุดระเบิด โดยการทำงานของคาร์บูเรเตอร์จะเป็นแบบกลไกทั้งหมด ไม่มีระบบไฟฟ้าใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งตรงจุดนี้มีข้อดีมากมาย จนเรียกได้ว่าช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านไปสู่หัวฉีดใช้เวลาค่อนข้างนานทีเดียว

 

      คุณสามารถปรับแต่งคาร์บูเรเตอร์ได้อย่างง่ายๆ แต่สิ่งนี้ก็ดูเหมือนจะศิลปะอยู่ไม่มากก็น้อยเช่นกัน เพราะต้องอาศัยความเข้าใจและประสบการณ์ที่ไม่น้อยเช่นกัน หากคุณต้องการให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุดทั้งกำลังและความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง โดยคาร์บูเรเตอร์ทั่วไปของรถมอเตอร์ไซค์จะสามารถปรับได้ 3 จุด ได้แก่

 

  • เข็มเร่ง : ควบคุมน้ำมันตามการบิดคันเร่งของผู้ขับขี่
  • นมหนู : ทำหน้าที่ผสมน้ำมันเชื้อเพลิง + อากาศ
  • เดินเบา : ตั้งรอบเครื่องยนต์ให้มีสมรรถนะสูงสุด

 

คาร์บูเรเตอร์ N-Pro

 

จุดเด่นของคาร์บูเรเตอร์

 

      ความเรียบง่าย : คาร์บูเรเตอร์มีกลไกที่ไม่ซับซ้อน หากไปเทียบกับระบบหัวฉีด มันไม่มีระบบไฟฟ้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นเทคโนโลยีที่ช่างซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ทุกคนเข้าใจ ทำให้ง่ายต่อการบำรุงรักษาและการซ่อมแซม โดยไม่มีข้อแม้ว่าคุณจะอยู่ในเมืองใหญ่หรือต่างจังหวัด

 

      ราคาที่ถูกกว่า : โดยปกติของคาร์บูเรเตอร์จะมีราคาที่ถูกกว่าระบบหัวฉีดอยู่แล้ว เวลามีปัญหาก็ใช้เงินในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ก็ต่ำกว่านั้นเอง

 

      ปรับแต่งได้ง่าย : ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องมือพิเศษใดๆ ในการปรับแต่ง มีเพียงไขควงอันเดียวก็สามารถปรับแต่งคาร์บูเรเตอร์แบบเบื้องต้นได้แล้ว มันไม่มีความซับซ้อนเหมือนกับระบบหัวฉีดที่มีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง

 

 

ข้อเสียของคาร์บูเรเตอร์

 

      การควบคุมที่เป็นรอง : โดยคาร์บูเรเตอร์จะไม่สามารถควบคุมส่วนผสมของอากาศกับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดีเท่ากับระบบหัวฉีด เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงระดับความสูงหรืออุณหภูมิ ก็อาจส่งผลในเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ลดลง

 

      อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง : ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่คาร์บูเรเตอร์ไม่สามารถสู้ได้เลย เพราะระบบหัวฉีดจะสามารถปรับส่วนผสมไปตามสภาวะการใช้งาน ทำให้ระบบหัวฉีดมีความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่มากกว่า

 

      มาตรฐานไอเสีย : เรื่องนี้เราได้เกริ่นไปก่อนหน้าแล้ว เพราะคาร์บูเรเตอร์จะปล่อยไอเสียที่สูงกว่าระบบหัวฉีด อย่างในปัจจุบันที่ยุโรปเป็นมาตรฐาน Euro5 ทำให้รถมอเตอร์ไซค์ที่ยังใช้คาร์บูเรเตอร์จะไม่สามารถขายในยุโรปได้อีกต่อไป

 

      ไม่มีเทคโนโลยีพิเศษช่วย : ระบบหัวฉีดจะมีการชดเชยระดับความสูงอัตโนมัติ ทำให้การจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศยังมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ ในส่วนของคาร์บูเรเตอร์จะไม่มีเทคโนโลยีอะไรเหล่านี้

 

อ่านข้อมูลอื่นเพิ่มเติม

 

 

      ในปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์ที่จำหน่ายในไทยเกือบทุกรุ่น จะเป็นระบบหัวฉีดเกือบทั้งหมดแล้ว จะมีรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กที่เป็นแบรนด์น้องใหม่ แบรนด์รองที่อาจยังใช้เทคโนโลยีอยู่เช่นกัน อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีหัวฉีดก็ไม่ใช่ของใหม่อีกต่อไปแล้ว ช่างเกือบทุกพื้นที่สามารถซ่อมแซมได้ง่ายๆ เช่นเดียวกับผู้ใช้งานต่างรับรู้ถึงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของระบบหัวฉีด และทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวและข้อมูลของคาร์บูเรเตอร์รถมอเตอร์ไซค์

 

ที่มาของภาพ

Honda

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook