กลับมาพบกันอีกครั้ง กับการเปรียบเทียบรถมอเตอร์ไซค์ที่ละเอียด และครอบคลุมที่สุด ซึ่งหลังจากที่เราได้ทำการเปรียบเทียบกันแบบจับคู่มาหลายต่อหลายคู่ คราวนี้เราจะยกทั้งคลาสมาทำการประชันให้เห็นแจ้งแจ่มชัดกันไปเลย ว่าใครจะเป็นที่สุดของคลาส จึงเป็นที่มาของ "ไตรเทพแห่งรถ Sport Bike พิกัด 300 ซีซี."
สำหรับการ Battle กันในคราวนี้ ทางทีมงาน BoxzaRacing จะพาท่านไปพบกับการประชันกันระหว่างรถ Sport Bike ในพิกัด 300 ซีซี. ที่ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับชาวไบค์เกอร์ที่ต้องการความเร้าใจ ในราคาที่สามารถจับต้องได้อย่างไม่ยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็น Honda CBR300R กับ Kawasaki Ninja 300 ABS และ Yamaha R3 ซึ่ง 3 รุ่นดังกล่าว รุ่นใดจะเป็นที่สุดของคลาสนี้ เราไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลย
Honda CBR300R
เรามาเริ่มกันที่ค่ายปีกนกกันก่อนเลยดีกว่า กับเจ้า Honda CBR300R ที่ล่าสุดพึ่งมีการอัพเดทเสริมความโดดเด่นให้โมเดลปี 2016 ภายใต้แนวคิด “Flashing Thrill” ด้วยสีสันใหม่ Lemon Ice Yellow ลงตัวกับลายเส้นกราฟิกโฉบเฉี่ยว และบอดี้ Matte Black เท่สะดุดตายิ่งขึ้น
ไฟหน้าแบบ 2 โคมแยกซ้าย-ขวา สไตล์สปอร์ต
สำหรับด้านหน้ายังคงมาพร้อมกับไฟหน้า 2 โคม แยกซ้าย-ขวา อันโฉบเฉี่ยว พร้อมก้านไฟเลี้ยวแบบยื่นออกด้านข้าง กระจอกมองข้างถูกติดตั้งไว้ที่ตำแหน่งชิลด์หน้า แฮนด์แบบจับยึดกับโช้คอัพสไตล์รถสปอร์ต ชุดแฟริ่งข้างแบบชิ้นเดียวยาวต่อเนื่องที่ห่อหุ้มถังน้ำมันขนาดใหญ่ สามารถบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 13 ลิตร เบาะนั่งแบบ 2 ตอน ดุจรถสปอร์ตรุ่นใหญ่ ปิดท้ายด้วยไฟท้ายหลังทรงทับทิมอันโฉบเฉี่ยว พร้อมบังโคลนท้ายและไฟเลี้ยวในตัว
เรือนไมล์แบบ Digital Speedometer แสดงผลบนหน้าจอ LED
ส่วนหน้าปัดเรือนไมล์ของเจ้า Honda CBR300R มาพร้อมกับเรือนไมล์แบบดิจิตอล แสดงผลบนจอ LED ครบฟังก์ชั่น ทั้งเกจ์วัดอุณหภูมิเครื่องยนต์, เกจ์วัดน้ำมัน, มาตรวัดความเร็ว พร้อมระบบ ODO Meter วัดระยะการเดินทาง และนาฬิกาดิจิตอล
ระบบช่วงล่างของ Honda CBR300R
ส่วนระบบช่วงล่างของเจ้า Honda CBR300R มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบเทเลสโคปิคขนาด 37 มม. ส่วนด้านหลังมาพร้อมกับโช้คอัพ Monoshock ทำงานร่วมกัน Pro-Link (กระเดืองโช้คอัพ) ที่สามารถปรับได้ 5 ระดับ สำหรับระบบเบรกด้านหน้ามาพร้อมกับจานดิสก์ขนาด 296 มม. คาลิเปอร์ Nissin 2 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS ส่วนด้านหลังมาพร้อมจานดิสก์ขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ 1 ลูกสูบ
ขุมพลัง 1 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 286 ซีซี. DOCH 4 วาล์ว
สำหรับขุมพลังของเจ้า Honda CBR300R มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 286 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก 76 x 63 มม. กำลังอัด 10.7:1 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI ลิขสิทธิ์เฉพาะของทาง Honda จุดระเบิดด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด ผ่านคลัชท์มือ มอบสมรรถนะสูงสุด 30.4 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที และให้แรงบิดสูงสุด 27 นิวตัน-เมตร ที่ 7,250 รอบ/นาที ระบายความร้อนด้วยน้ำ
Honda CBR300R กับราคาค่าตัวที่ 133,000 บาท
สำหรับราคาค่าตัวของเจ้า Honda CBR300R ถูกกำหนดไว้ที่ 133,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่ไบค์เกอร์มือใหม่สามารถหามาครอบครองกันได้ไม่ยาก
Kawasaki Ninja 300 ABS
มาต่อกันที่ค่ายยักษ์เขียวกันบ้าง กับเจ้า Kawasaki Ninja 300 ABS ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกของรถ Sport Bike ในคลาส 300 ซีซี. และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย จนทำให้คู่แข่งหันมาให้ความสนใจกับรถได้คลาสนี้
Kawasaki Ninja 300 ABS กับดีไซน์ไฟหน้าแบบสปอร์ต
สำหรับรูปโฉมภายนอกของเจ้า Kawasaki Ninja 300 ABS มาพร้อมกับดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวสไตล์รถสปอร์ตหรูของตระกูล Ninja ที่ถูกถ่ายทอด DNA จากรุ่นสู่รุ่น เริ่มจากด้านหน้าที่มาพร้อมกับไฟหน้าแบบ 2 โคม แยกซ้าย-ขวา ดีไซน์สปอร์ต กระจกมองข้างถูกติดตั้งไว้ที่ชิลด์หน้าทรงสปอร์ต ส่วนไฟเลี้ยวหน้าถูกฝังไว้ที่บริเวณชุดแฟริ่งด้านข้างที่ยาวต่อเนื่อง ถังน้ำมันขนาดใหญ่จุใจขนาด 17 ลิตร เบาะนั่งแบบแยก 2 ตอน ปิดท้ายด้วยไฟท้ายทรงสปอร์ตพร้อมบังโคลนท้ายแบบสั้น
หน้าปัดเรือนไมล์ผสมผสานระหว่างดิจิตอล LCD และอนาล็อก
ส่วนหน้าปัดเรือนไมล์ของเจ้า Kawasaki Ninja 300 ABS มาพร้อมกับหน้าจอผสมผสานระหว่างดิจิตอล LCD และอนาล็อก ที่บอกรายละเอียดอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นตัวบอกระดับน้ำมัน, มาตรวัดความเร็ว, ระยะทาง, นาฬิกา และการแจ้งเตือนค่าต่างๆ แบบดิจิตอล ที่เติมเต็มความสวยงามด้วยไฟสีขาว LED ส่วนวัดรอบเครื่องยนต์ยังคงเป็นแบบเข็มอนาล็อกที่มีรอบการทำงานของเครื่องยนต์สูงถึง 15,000 รอบ/นาที
Kawasaki Ninja 300 มาพร้อมกับระบบ ABS ทั้งหน้า และหลัง
สำหรับระบบช่วงล่างของ Kawasaki Ninja 300 ABS มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบเทเลสโคปิค ขนาด 37 มม. และด้านหน้าแบบโช้คอัพแก๊สเดี่ยว พร้อมแขนยึดยูนิแทรค ที่สามารถปรับได้ 5 ระดับ ส่วนระบบเบรกด้านหน้ามาพร้อมกับจานดิสก์เบรกขนาด 263 มม. คาลิเปอร์แบบ 2 ลูกสูบ และด้านหลังกับจานดิสก์เบรกขนาด 193 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว ที่มาพร้อมกับระบบ ABS ทั้งหน้า และหลัง
เครื่องยนต์ 2 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 296 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว/สูบ
ส่วนทางด้านขุมพลังของเจ้า Kawasaki Ninja 300 ABS มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 296 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว/สูบ ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก 62.0 x 49 มม. กำลังอัด 10.6:1 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดขนาด 32 มม. พร้อมกับลิ้นผีเสื้อคู่ ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด ผ่านคลัชท์มือ ที่มอบสมรรถนะสูงถึง 39 แรงม้า ที่ 11,000 รอบ/นาที และแรงบิด 27 นิวตัน-เมตร ที่ 10,000 รอบ/นาที ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ
Kawasaki Ninja 300 ABS กับราคาค่าตัว 182,500 บาท
สำหรับราคาค่าตัวของ Kawasaki Ninja 300 ABS ถูกตั้งไว้ที่ 182,500 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่กระเถิบขึ้นมาสักเล็กน้อย แต่ถ้าเทียบกับสมรรถนะที่ได้รับแล้ว ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าสมกับราคา
Yamaha R3
ปิดท้ายกันที่น้องใหม่ในคลาส Sport Bike 300 ซีซี. กับ Yamaha R3 ที่ว่ากันว่าเป็นตัวแทนที่ถูกถ่ายทอด DNA มาจาก Yamaha R1 และเป็นน้องใหม่สุดในตระกูล R-Series อีกทั้งหนึ่งในผู้รังสรรค์ Yamaha R3 ขึ้นมานั้น คือ VR46 หรือ Valentino Rossi อีกด้วย
Yamaha R3 กับไฟหน้าดีไซน์สปอร์ต
โดยรูปโฉมภายนอกของเจ้า Yamaha R3 ถูกออกแบบให้มีความสปอร์ตเร้าใจเต็มพิกัด เริ่มจากด้านหน้าที่มาพร้อมไฟห้นาแบบ 2 โคม ดีไซน์สปอร์ต พร้อมมีไฟหรี่ทรงสามเหลี่ยมที่กึ่งกลาง ไฟเลี้ยวแบบก้านยื่นออกด้านข้าง ชิลด์หน้าแบบรมดำพร้อมกระจกมองข้างในตัว ควบคุมและบังคับเลี้ยวผ่านแฮนด์ทรงสปอร์ตที่จับยึดกับโช้คอัพ ถังน้ำมันดีไซน์แบบเพรียวบางสามารถบรรจุเชื้อเพลิงได้ 14 ลิตร เบาะนั่งแบบ 2 ตอน โดยในส่วนของคนซ้อนท้ายจะถูกยกให้สูงขึ้นตามสไตล์รถสปอร์ตรุ่นใหญ่ ไฟท้ายทรงเพรียวบางถูกจับคู่กับบังโคลนท้ายอย่างลงตัว
แผงหน้าปัด Multi Function พร้อมไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์ดีไซน์ Shift Light
ส่วนหน้าปัดเรือนไมล์ของ Yamaha R3 มาพร้อมกับแผงหน้าปัด Multi Function จัดเต็มทุกฟังก์ชั่น ทั้งตัวเลขบอกตำแหน่งเกียร์ พร้อมไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์ดีไซน์ Shift Light ที่ถอดแบบมาจาก YZF-R1 และ YZR-M1, วัดรอบแบบเข็มอนาล็อก และมาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอล
Yamaha R3 มาพร้อมกับจานเบรกแบบ Floating และระบบ ABS ทั้งหน้า-หลัง
สำหรับระบบช่วงล่างของเจ้า Yamaha R3 มาพร้อมกันระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบเทเลสโคปิด ขนาด 41 มม. ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Monoshock จับยึดกับสวิงอาร์ม ส่วนระบบเบรกด้านหน้ามาพร้อมกันจานดิสก์แบบ Floating ขนาด 293 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบคู่ ด้านหลังเป็นแบบดิสก์เบรก Floating ขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว ที่มาพร้อมกับระบบ ABS ทั้งหน้า และหลัง
Yamaha R3 ถูกถ่ายทอดความแรงมาจากรุ่นพี่ในค่ายอย่าง Yamaha YZF R1
ส่วนทางด้านขุมพลังของ Yamaha R3 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะมันได้ถูกถ่ายทอดความแรงมาจากรุ่นพี่ในค่ายอย่าง Yamaha YZF R1 และยังได้รับการพัฒนาให้มีความสมดุลยิ่งขึ้นจากแชมป์โลก 9 สมัย Valentino Rossi อีกด้วย โดย Yamaha R3 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 321 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว/สูบ เหนือชั้นด้วยเทคโนโลยีที่วิเคราะห์การเผาไหม้อย่างแม่นยำ พร้อมกระบอกสูบไดอะซิลที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในเครื่องยนต์ 2 สูบ กระบอกสูบ/ระยะชัก 68.0 x 44.1 มม. ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 สปีด ผ่านคลัชท์มือ ที่ให้สมรรถนะสูงสุด 42 แรงม้า ที่ 10,750 รอบ/นาที และมีแรงบิด 29.6 นิวตัน-เมตร ที่ 9,000 รอบ/นาที ระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำ
Yamaha R3 กับราคาค่าตัวที่ 185,000 บาท
สำหรับราคาค่าตัวของเจ้า Yamaha R3 ถูกตั้งไว้ที่ 185,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่สูงที่สุดในคลาส Sport Bike พิกัด 300 ซีซี. แต่หากมองให้ลึก จะเห็นว่าเจ้า Yamaha R3 ก็พกความคุ้มค่ากับสมรรถนะที่ได้รับ และความเร้าใจดีกรีระดับแชมป์โลก MotoGP
รายละเอียดพื้นฐาน Honda CBR300R, Kawasaki Ninja 300, Yamaha R3
รายละเอียดพื้นฐาน | Honda CBR300R | Kawasaki Ninja 300 | Yamaha R3 |
เครื่องยนต์ | 1 สูบ 4 จังหวะ | 2 สูบ 4 จังหวะ | 2 สูบ 4 จังหวะ |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 286 ซีซี. | 296 ซีซี. | 321 ซีซี. |
ระบบวาล์ว | DOHC 4 วาล์ว/สูบ | DOHC 4 วาล์ว/สูบ | DOHC 4 วาล์ว/สูบ |
ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก | 76 mm x 63 mm | 62 mm x 49 mm | 68 mm x 44.1 mm |
แรงม้า | 30.4 HP@ 8,500 Rpm | 39 HP @11,000 Rpm | 42 Hp @ 10,750 rpm |
แรงบิด | 27 Nm @7,250 Rpm | 27 Nm @10,000 Rpm | 29.6 Nm @ 9,000 rpm |
อัตราส่วนการอัด | 10.7:1 | 10.6:1 | 11.2:1 |
ระบบเกียร์ | Manual 6 Speed | Manual 6 Speed | Manual 6 Speed |
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง | PGM-FI | Fuel injection | T.C.I. Fuel injection |
ระบบสตาร์ท | สตาร์ทไฟฟ้า(มือ) | สตาร์ทไฟฟ้า(มือ) | สตาร์ทไฟฟ้า(มือ) |
ระบบครัทช์ | คลัทช์มือแบบเปียก Multiplate | คลัทช์มือแบบเปียกMultiplate | คลัทช์มือแบบเปียกMultiplate |
ขนาดยางหน้า | 110/70 R17 | 110/70 R17 | 110/70 R17 |
ขนาดยางหลัง | 140/70 R17 | 140/70 R17 | 140/70 R17 |
โช๊คอัพหน้า | Telescopic 37 มม. | Telescopic 37 มม. | Telescopic 41 มม. |
โช๊คอัพหลัง | Monoshock Pro-Link Swingarm | โช้คแก็สเดี่ยว พร้อมแขนยึดยูนิแทรค ปรับได้ 5 ระดับ | KYB Monoshock ยึดกับ Swingarm |
เบรกหน้า | จานดิสก์ขนาด 296 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ ABS | จานดิสก์ขนาด 263 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ ABS | ดิสก์เบรก Floating ขนาด 293 มม. คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ ABS |
เบรกหลัง | จานดิสก์ขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว | จานดิสก์ขนาด 193 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว ABS | ดิสก์เบรก Floating ขนาด 220 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว ABS |
ยาวxกว้างxสูง | 2,035 x 720 x 1,120 มม. | 2,015 x 715 ×1,110 มม. | 2,090 x 710 x 1,130 มม. |
ความสูงเบาะ | 780 mm. | 785 mm. | 780 mm. |
น้ำหนักรถ | 162 kg. | 174 kg. | 170 kg. |
ความจุถังน้ำมัน | 13 ลิตร | 17 ลิตร | 14 ลิตร |
ราคา | 133,000 บาท | 182,500 บาท | 185,000 บาท |
Comment
สำหรับใครที่สนใจ และหมายปองรถมอเตอร์ไซค์ Sport Bike ในพิกัด 300 ซีซี. ที่ทาง BoxzaRacing นำมา Battle กันในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Honda CBR300R, Kawasaki Ninja 300 และ Yamaha R3 ซึ่งแต่ละรุ่นต่างก็มีข้อดี และข้อได้เปรียบกันไปในคนละด้าน ขึ้นอยู่กับความต้องการ และสไตล์การขับขี่ของแต่ละท่าน หากใครที่มองหาความคุ้มค่าด้านราคา และอยากที่จะมีรถ Sport Bike เท่ๆ ไว้ขับขี่สักคัน Honda CBR300R ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณได้อย่างดีที่สุด ส่วนใครที่ชื่นชอบดีไซน์อันดุดัน ผสานกับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยขึ้นมาอีกนิดนึง Kawasaki Ninja 300 น่าจะเป็นตัวเลือกในการตอบโจทย์นี้ของคุณได้ ส่วนใครที่ชื่นชอบความเร็ว การขับขี่ที่เร้าใจสุดขั้ว Yamaha R3 ถือเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์นี้ได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกันทั้ง 3 รุ่นนี้
สำหรับการ Battle กันในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าน้องใหม่ล่าสุดในคลาส Yamaha R3 จะกุมความได้เปรียบอยู่เล็กน้อย เนื่องด้วยสมรรถนะของขุมพลัง ผสานกับระบบช่วงล่างที่มีความเหนือชั้นกว่า ทำให้ Yamaha R3 มีความโดดเด่นมากที่สุดในคลาสนี้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่าใครเพื่อน ส่วน Kawasaki Ninja 300 ก็ถือเป็นรถ Sport Bike รุ่นแรกๆ ที่ใครหลายๆ คนถวิลหา และอยากมีไว้ในครอบครองอยู่ไม่น้อย ด้วยดีไซน์อันคงเอกลักษณ์ของรถตระกูล Ninja ประดุจได้ขับ Sport Bike ตัวพันเลยก็ว่าได้ และสำหรับ Honda CBR300R ถึงแม้ว่าอ็อฟชั่น หรือสมรรถนะต่างๆ จะเป็นรองเพียงเล็กน้อย แต่ความได้เปรียบเรื่องราคาส่วนต่าง ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ Honda ยังกุมความได้เปรียบอยู่เช่นกัน เพราะเหล่าไบค์เกอร์หลายๆ ท่าน นิยมนำส่วนต่างนั้น มาทำการตกแต่งในแบบฉบับของตนเอง
และนี่คือ การเปรียบเทียบจากข้อมูลบางส่วน เพื่อประกอบการตัดสินใจของไบค์เกอร์ทุกท่าน และในครั้งหน้า BoxzaRacing จะนำรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike สุดเร้าใจคันไหนมาทำการ Battle ให้ชาวสองล้อขาซิ่งทั้งหลายได้ชมกันอีก ต้องคอยติดตามกันในรอบต่อไปที่ BoxzaRacing ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น