เขียนโดย: Monster Racing

เมื่อ: 13 กันยายน 2560 - 17:13

ภาพโดย: Streetmetal

My name is Bank an automotive photographer and a based out of Thailand

Honda CB150R ExMotion จัดเต็มกับรีวิวแบบชัดๆ กับที่สุดแห่ง Modern Cafe 150

 

          “ฮอนด้าจะเปิดตัวรุ่นใหม่แล้วนะ” หลังจากได้ยินข้อความนี้ ผมคิดถึงโมเดลเดิมๆ ที่เคยมีมาในท้องตลาดเพื่อที่จะนำมาขายให้เหมือนๆ กับบรรดาค่ายอื่น ๆ หลังจากที่ค่อยๆ มีภาพหลุดมาเรื่อยๆ ทำให้ผมได้ทราบว่า Honda (ฮอนด้า) จะผลิตรถรุ่นใหม่ในประเทศไทย โดยทีมงานออกแบบคนไทยร่วมกับทีมงานจากประเทศญี่ปุ่น โดยที่จะทำรถสไตล์ Modern Cafe ในพิกัด 150 CC. จนมีคำถามมากมายว่ารถคันนี้จะมีอะไรพิเศษ จนถึงวันที่ผมได้รับเชิญให้ไปทดสอบที่ศูนย์ Honda R&D Asia Pacific จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นสนามทดสอบของ Honda ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ที่เนรมิตสนามทดสอบเสมือนถนนจริงในบ้านเรา เพื่อจำลองเหตุการณ์การใช้งานจริง โดยมีสถานีทดสอบถึง 8 สถานี ซึ่งต้องบอกว่าเป็นสนามที่มีการลงทุนมหาศาลกว่า 1,700 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่ 3 ของโลก ต่อจากประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา

 

 

          กลับมาต่อเรื่องของ Honda CB150R 2017 กันบ้าง หลังจากที่ได้เข้ามายังศูนย์ Honda R&D แล้ว มีการอธิบายถึงที่มาที่ไปของรถคันนี้ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร โดยรถคันนี้ถือว่าเป็นรถที่ Honda จัดเต็มจัดหนักจริงๆ ทั้งเรื่องของการออกแบบ โดยถูกพัฒนาจากทีมผู้สร้างรถ RC211, RC213V-S รวมถึง CBR1000RR เพื่อสมรรถนะที่ดีที่สุด รวมไปถึงการพัฒนาเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 150 ซีซี. ที่มีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ที่สามารถบอกได้เต็มปากว่านี่คือ เครื่องตัวใหม่ของพิกัด 150 ซีซี. ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกระเดื่องวาล์วแบบ Roller ชุดฝาสูบแบบใหม่ แผ่นผ้าครัทช์ที่เพิ่มพื้นที่ของเนื้อผ้าให้มากขึ้น รวมถึงกำลังอัด 11.3:1 ที่ถือว่ามากที่สุดในคลาสระดับนี้ ส่งผลให้เครื่องยนต์ตัวนี้ มีแรงบิดที่ดีตอบสนองทุกรอบความเร็ว ทำให้การขับขี่เป็นไปด้วยความสนุก นั่นคือ เครื่องที่น่าจะตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม

 

 

          จากเครื่องยนต์ใหม่ เรามาดูการออกแบบของรถคันนี้กันบ้าง สำหรับรูปแบบการดีไซน์แบบ Modern Café ซึ่งต้องบอกว่าเป็นรูปแบบใหม่ที่ฮอนด้าต้องการออกมาเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตรูปแบบของคนสมัยใหม่ ซึ่งเน้นการขี่รถไปทำงาน ขี่ไปเที่ยว และชอบในเรื่องของการตบแต่ง โดยจุดเด่นๆ ของรถคันนี้มีมากมาย เช่น

  • ชุดไฟหน้า FULL LED ทรงกลม ให้อารมณ์แบบคาเฟ่แท้ๆ
  • ชุดเรือนไมล์ LCD พร้อมฟังค์ชั่นที่จัดเต็มมากๆ ทั้งไฟเตือนการเปลี่ยนเกียร์ หรือ Shift Light ฟังค์ชั่นบอกตำแหน่งเกียร์ วัดรอบ และวัดความเร็ว Digital ทริปการเดินทาง รวมถึงค่าเฉลี่ยของน้ำมัน
  • แฮนด์แบบ FATBAR ที่ยกมาจาก CRF1000 หรือ Africa Twin ที่ให้ความสวยงามละความทนทานอย่างมาก
  • ช่วงล่างหน้าที่จัดเต็ม โดยยกมาจาก Honda X-ADV 750 แบบ Up Side Down ซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 41 มม. ที่ต้องบอกว่าใหญ่ที่สุดในรถขนาดเดียวกัน รวมถึงโช๊คอัพหลังแบบ Mono shock ที่ทำงานควบคู่กับสวิงอาร์มแบบ Light Weight ซึ่งให้ทั้งเรื่องของความนุ่มนวล และการขับขี่ที่สามารถใช้รถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจริงๆ
  • ยาง Radial ทั้งหน้าและหลังโดยมีขนาด 110/70/17 ในด้านหน้า และขนาด 150/60/17 ในด้านหลัง เพื่อความนุ่มนวล และการเกาะถนนที่มากยิ่งขึ้น
  • ชุดเฟรมที่ออกแบบมาใหม่ล่าสุดในแบบ Inner Pivot Type Diamond Frame ที่เน้นในเรื่องของการกระจายน้ำหนัก รวมถึงเน้นเรื่องของจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ เพื่อให้การขับขี่นั้นง่ายยิ่งขึ้น
  • ท่อไอเสียที่ออกแบบมาให้อยู่บริเวณกลางรถด้านล่าง เพื่อบาลานซ์น้ำหนักให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำ
  • พักเท้าเกียร์โยง รวมถึงตำแหน่งของแฮนด์ ที่ทำให้ผู้ขับขี่ ขี่ได้อย่างสบาย และไม่เมื่อย

 

 

          นี่คือ สิ่งที่ฮอนด้าจัดเต็มสำหรับการเปิดตัว Honda CB150R อย่างอลังการ ซึ่งเป็นการยืนยันว่ารถคันนี้ เป็นรถที่ Honda ให้ความสำคัญ และใส่ใจกับทุกจุดของการออกแบบจริงๆ กลับเข้ามาเรื่องการทดสอบกันต่อ อย่างที่ผมบอกว่า บรรดาผู้ที่ไปทดสอบนั้น เป็นสื่อมวลชนที่เป็นกลุ่มแรกของประเทศไทยที่ได้ใช้พื้นที่ของสนามทดสอบแห่งนี้ โดยเรามีการทดสอบทั้งหมด 3 สถานี ได้แก่

 

 

          1. Straight Course สนามทดสอบทางตรงความยาว 1.2 กิโลเมตร เพื่อทดสอบในเรื่องของอัตราเร่ง รวมถึงการใช้เบรค สำหรับสนามทดสอบนี้ Honda CB150R ที่ผมใช้ในการขี่นั้น ได้มีการทดสอบในเรื่องของเบรคแบบหนักๆ เพื่อดูว่าสามารถสั่งได้หรือไม่ ผลลัพท์คือ ระบบเบรคขนาด 4 POT แบบ Radial Mount จับคู่จานแบบลอยขนาด 296 มม. ใช้งานได้ดีมาก รวมถึงเบรคหลังก็สามารถชะลอความเร็วได้อย่างดี และที่สำคัญ การทดสอบความเร็วเบื้องต้นในระยะทาง 600 เมตร Honda CB150R สามารถทำความเร็วได้ถึง 130 กิโลเมตร/ชั่วโมง เลยทีเดียว

 

 

          2. Oval Course สนามทดสอบรูปวงรี เป็นสนามที่ใช้ในการทดสอบความเร็ว โดยมีระยะต่อรอบ 2.18 กิโลเมตร โดยสนามทดสอบนี้ เน้นในเรื่องของความเร็วทั้งทางตรง และโค้ง High Speed ซึ่งเป็นจุดที่ผมสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 136 กม./ชม. โดยที่ไม่จำเป็นต้องลดความเร็วลงเลยเพราะช่วงล่างนั้นเอาอยู่จริงๆ ไม่มีอาการสบัดแต่อย่างใดในขณะที่เข้าโค้ง ทำให้เราสามารถใช้ความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง และไม่จำเป็นต้องใช้เบรคในการแต่งอาการแต่อย่างใด

 

 

          3. Winding Course สนามทดสอบโค้ง สนามทดสอบทางโค้งความยาว 1.38 กิโลเมตร ใช้ทดสอบสมรรถนะโดยทั่วไป รวมถึงการทดสอบประสิทธิภาพของระบบเบรก และการควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง สนามทดสอบทางโค้งนี้ มีการจำลองถนนที่มีการขึ้น-ลง รวมมีทางโค้งทั้งหมด 17 โค้ง ซึ่ง Honda CB150R ออกแบบเฟรมด้วยการรวมมวลน้ำหนักส่วนใหญ่ให้อยู่ใต้คนขับ ทำให้ควบคุมรถเข้า ออกโค้งไปอย่างคล่องตัว สามารถขี่ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีปัญหาในการเข้าโค้งต่างๆ เลย ซึ่งทำให้เรามั่นใจว่าในการใช้งานกับถนนจริงนั้น ก็สามารถขี่ได้อย่างง่ายดายเช่นกัน

 

 

          หลังจากที่ใช้เวลาในการทดสอบถึงครึ่งวันเต็มๆ สำหรับคะแนนโดยรวม ผมให้เจ้า Honda CB150R คันนี้ ผ่านทุกส่วนครับ เพราะมันคุ้มค่ามากๆ กับที่ Honda จัดมาให้อย่างหนัก สมกับผู้ที่ทำโปรเจครถคันนี้เอ่ยปากว่า รถคันนี้เป็นรถที่ดีที่สุดในคลาส 150 cc. ซึ่งมันไม่เกินคำบอกเล่าคำนี้เลย รวมถึงทางฮอนด้าเองก็มีการเตรียมตัวที่จะจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ ไว้รองรับบรรดานักแต่ง ซึ่งต้องบอกว่าเป็นของตรงรุ่น และมีการรับประกันจากทางฮอนด้ามากกว่า 43 รายการ รวมถึงชุดท่อจาก Moriwaki แบรนด์ดังระดับตำนานคู่บารมีของฮอนด้าจากประเทศญี่ปุ่น ก็พร้อมจำหน่ายให้กับคนที่อยากได้สุ้มเสียงที่เร้าใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

 

          สำหรับราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Honda CB150R รุ่น Standard อยู่ที่ 99,800 บาท ส่วนตัว ABS ราคาค่าตัวอยู่ที่ 109,800 บาท ซึ่ง ณ เวลานี้ Honda CB150R มีวางจำหน่ายทั่วประเทศแล้ว ท่านใดสนใจก็สามารถไปชมตัวจริงได้ที่ Honda Wing Center ทุกสาขาเลยครับ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook