Honda CBR300R ที่สุดของความใช่ ในแก่นแท้แห่งความเป็นสปอร์ต
หลังจากที่ Honda CBR300R รุ่นปี 2017 เปิดตัวไปไม่นาน ทาง BoxzaRacing ได้นำสองล้อสไตล์สปอร์ตสุดฮอตผู้นี้ มาทดลองขับขี่ ซึ่งต้องบอกว่า อันที่จริง คือ อยากลองมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองเสียที ทำให้พลาดโอกาสในการเรียนรู้เรื่องราวหลายๆ อย่าง และแน่นอนว่าคราวนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ BoxzaRacing จะได้ทดสอบรถมอเตอร์ไซค์จากค่ายปีกนกที่วางจำหน่ายแล้ว พร้อมกับสีใหม่สำหรับปี 2017 โดยเฉพาะสีแดงใหม่ล่าสุด ที่ให้ความรู้สึกถึงความเร่าร้อนในอารมณ์สปอร์ตไว้อย่างลงตัว ช่วยส่งให้ตัวรถ Honda CBR300R ดูโดดเด่น ปราดเปรียว ร้อนแรงขึ้นอีกระดับในแบบฉบับสปอร์ตไบค์พันธุ์แท้ ซึ่งไม่ใช่แค่ BoxzaRacing ที่ได้ทดลองขี่เท่านั้น แต่เรายังมี 3 ไบค์เกอร์คนดัง ที่ให้เกียรติเข้ามาร่วมการทดสอบ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับ Honda CBR300R รุ่นปี 2017 อีกด้วย
จอห์น อริยะพงษ์ เจริญสุข
สำหรับคนแรกที่เราได้เชิญมาร่วมทดลองขี่ในครั้งนี้ ใช่คนอื่นไกล แต่เป็นคุณจอห์น อริยะพงษ์ เจริญสุข พิธีกรรายการ Johnza พาซิ่ง ของเรานี่เอง สัมผัสแรกที่คุณจอห์นได้เห็น Honda CBR300R รุ่นปี 2017 ก็รู้สึกชื่นชอบ และประทับใจในเรื่องสีสันและลวดลายกราฟฟิคที่เฉียบคมยิ่งขึ้น หลังจากที่มีโอกาสได้ทดสอบ Honda CBR300R แบบเต็มๆ กับสภาพการจราจรที่ติดขัดของเมืองหลวงอันแสนวุ่นวาย ผมมีความรู้สึกว่า รถคันนี้เป็นรถที่ควบคุมได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวงเลี้ยว อัตราเร่งช่วงต้นที่สั่งได้ การบาลานซ์ของรถ มันเป็นรถที่ขี่ดีคันหนึ่งเลยทีเดียว โดยผมมองข้ามช็อตไปถึงการนำเข้าไปขี่เล่นในสนามหรือเดินทางออกทริปไกลๆ มันน่าจะตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบรถที่ควบคุมง่าย ขี่ง่ายอย่างแน่นอน ด้วยน้ำหนักที่เบา เครื่องยนต์ที่ไม่ได้เน้นแต่คำว่าแรงเกินไป ทำให้เป็นมิตรกับผู้ขับขี่ โดยเฉพาะบรรดามือใหม่ทั้งหลาย ที่อาจจะกลัวในเรื่องของการบังคับรถไม่ได้ หรือรถแรงเกินไป และที่สำคัญ ในเรื่องของการบริโภคน้ำมันในรถพิกัด 300 CC. นั้น Honda CBR300R ทำได้ดีมากสมกับเป็นรถในตระกูลปีกนกจริงๆ และยังออกแบบมาให้มีค่าไอเสียที่สะอาดถึงระดับ 6 ผ่านท่อไอเสียที่ให้เสียงนุ่มนวล แต่แฝงไว้ซึ่งพลังที่พร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าทุกเมื่อ มันเป็นรถที่เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและพร้อมที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวไปได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งนี่คือ รถที่น่าจะเรียกได้ว่าคุ้มค่าในเรื่องราคาค่าตัวและการเลือกตัดสินใจซื้อสำหรับมือใหม่ที่ชอบในแบรนด์ Honda อยู่แล้วด้วย
ซูซาน ซูซันเน่อ วิทซเค่อ (Susanne Witzke)
ไบค์เกอร์สาว กับความเท่ เรียกได้ว่าเป็นของที่ต้องมาคู่กันเสมอ เช่นเดียวกับคุณซูซาน ซูซันเน่อ วิทซเค่อ ไบค์เกอร์สาวสุดเท่ที่ชื่นชอบการขี่มอเตอร์ไซค์เป็นชีวิตจิตใจ งานนี้คุณซูซาน ควบ Honda CBR300R รุ่นปี 2017 แล้ว เธอบอกว่าอย่างแรกที่ทำให้หลงรักสองล้อคันนี้ก็คือ เรื่องของหน้าตาและดีไซน์ที่ดูโฉบเฉี่ยว สมกับเป็นมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์สปอร์ตขนานแท้ ซึ่งโดยส่วนตัวนั้น เธอชอบสีเทาเอามากๆ ได้ขี่แล้วรู้สึกว่าเท่มาก มีคนเหลียวมองอยู่ตลอดสองข้างทางเลยทีเดียว ส่วนเรื่องของสไตลืและท่าทางการขับขี่ ก็เรียกว่าเข้ามือสาวๆ ไบเกอร์มากเลยทีเดียว ด้วยความที่ตัวรถมีน้ำหนักไม่มากมายนัก ทำให้การขับขี่เป็นไปโดยง่าย ขี่ในมืองทั้งวันก็รู้สึกถูกใจที่เป็นรถที่คล่องตัว เจอทั้งรถติดและทางโล่ง ตอนรถติดก็คล่องตัว เจอทางโล่งบิดแล้วพุ่ง แรงได้ใจเลย เช่นเดียวกับในส่วนของช่วงล่างที่จัดการได้อย่างอยู่หมัด แม้ว่าต้องเจอกับสภาพเส้นทางที่ไม่เรียบ ก็สามารถผ่านไปได้อย่างไร้ปัญหา นุ่มนวลกว่าที่คิด ท่านั่นต่างๆ ออกแบบมาได้อย่างเป็นมิตร ไม่ก้มเกินไปจนทำให้เกิดความเมื่อยล้าในระหว่างขับขี่ เปลี่ยนเกียร์ง่ายๆ เบรกกะทันหันก็กล้าเบรกแรงๆ เพราะมี ABS ช่วย ในภาพรวม ขับแล้วมั่นใจ ทั้งสวยและขี่ดี สรุปแล้ว Honda CBR300R เรื่องสมรรถนะไม่มีข้อเสียเลย ขับขี่ดีทั้งเส้นทางไกลและใกล้ ตอบโจทย์คนใช้รถเยอะ ขี่ในเมืองหรือทางไกลบ่อยๆ ไว้วางใจกับรุ่นนี้ได้เลยค่ะ
ติ ชนธัญ จิตร์แก้ว
คนต่อไปที่ทาง BoxzaRacing ได้เชิญมาทดสอบในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นไอดอลของสาย CBR เลยก็ว่าได้ กับคุณติ ชนธัญ จิตร์แก้ว ซึ่งแน่นอนว่าเขาผู้นี้ เรียกได้ว่าเป็นสายบิดที่คลั่งไคล้ความแรงของมอเตอร์ไซค์สายพันธุ์สปอร์ตเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ได้ทดลองขี่ Honda CBR300R รุ่นปี 2017 คุณติบอกกับเราว่า ความแรงของ Honda CBR300R ถือว่าจัดจ้านใช้ได้เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับรถในคลาสเดียวกันแล้ว ถือว่าค่อนข้างทรงพลังด้วยขุมพลังสูบเดี่ยวในพิกัด 300 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI ฟิลลิ่งการขับขี่ บอกได้เลยว่าจัดเต็มสำหรับไบค์เกอร์แนวสปอร์ต แต่ยังคงความสบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยแฮนด์ยกสูง ทำให้การคอนโทรลรถ ทั้งทางตรง เร่งความเร็วออกจากโค้ง ด้วยน้ำหนักตัวที่เบา ผสานกับแรงบิดที่เหลือล้น หรือแม้กระทั่ง เวลาขับขี่ในจุดที่การจราจรหนาแน่น เป็นไปอย่างลื่นไหล ภายใต้ช่วงล่าง และองค์ประกอบที่ถูกปรับเซ็ตมาอย่างยอดเยี่ยมจากโรงงาน ด้วยระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ Pro-Link Rear Suspension ซึ่งสามารถปรับได้ถึง 5 ระดับ ช่วยเปลี่ยนทุกความท้าทายในการขับขี่เป็นความมั่นใจที่พร้อมจะพิชิตชัยในทุกโค้ง หากผมต้องลงแข่งในคลาสนี้ Honda CBR300R รุ่นปี 2017 จะเป็นตัวเลือกแรกในใจผมอย่างแน่นอน
Honda ยังคงเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจของชาวไบค์เกอร์อยู่เสมอ ด้วยเครือข่ายของตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการที่เหนียวแน่น ทำให้เรื่องของการดูแลหลังการขาย ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นกังวล นอกจากนี้ต้องบอกว่าค่าบำรุงรักษาของค่ายปีกนกนั้น เป็นมิตรกับผู้ใช้งานแน่นอน รวมถึงราคารถใหม่ที่ไม่แรงเกินไปอยู่ที่แสนต้นๆ เท่านั้น ซึ่งทำให้เราสามารถตัดสินใจไม่ยาก สำหรับการมีรถสปอร์ตขนาดกลางคันแรก ที่ขี่ง่าย ดูแลง่าย และศูนย์บริการที่มีทั่วประเทศ นี่คือ รถสปอร์ตขนาดกลางอีกคันที่ น่าสนใจสำหรับคนที่อยากขี่รถสนุกๆ ประหยัดน้ำมัน และมีความสปอร์ตในตัวกับ Honda CBR300R รุ่นปี 2017 ท่านใดสนใจ ลองไปชมตัวจริงได้ ที่ศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center ทั่วประเทศ
