เขียนโดย: Piapiano

เมื่อ: 8 เมษายน 2562 - 21:04

Honda CBR250RR สปอร์ต Racing Replica กับสุดยอดสมรรถนะเกินพิกัด คุ้มไหม...อยู่ที่ใจล้วนๆ

New Honda CBR250RR "Beating Master" สปอร์ตพันธ์ุแข่ง แรงระดับมาสเตอร์

 

          หลังจากที่อดใจรอกันมานานหลายปี กับอีกหนึ่งสุดยอดรถสปอร์ตไบค์สมรรถนะสูงในคลาส 250 ซีซี. กับเจ้า Honda CBR250RR ที่มีข่าวการเปิดตัวที่ต่างประเทศมาสักพักใหญ่ๆ เล่นเอาแฟนๆ ชาวไทยแทบผิดหวังกับการรอคอยไม่น้อย แต่ในครั้งนี้ทาง Honda ได้เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อย ในงาน Bangkok International Motor Show ครั้งที่ 40 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี เรียกเอาเสียงฮือฮาจากแฟนๆ Honda ได้อย่างล้นหลาม และครั้งนี้ BoxzaRacing จะนำเจ้า Honda CBR250RR มาพรีวิวให้กับแฟนๆ ได้ชมกันว่าความสุดที่แท้จริงๆ มันเป็นอย่างไร ตามไปชมเลยครับ

 

เล็กพริกขี้หนูในแบบฉบับ Racing Replica

 

          เรียกได้ว่าเจ้า Honda CBR250RR คันนี้เป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงของทาง Honda เลยก็ว่าได้ ด้วยคอนเซ็ปต์การสร้างและออกแบบโดยเรียกสายตรงความแรงรหัส RR หรือที่ย่อมาจากคำว่า Racing Replica ที่ถ่ายทอด DNA เทคโนโลยีมาจากรถแข่ง MotoGP กับคอนเซ็ปต์ "Beating Master" สปอร์ตพันธ์ุแข่งแรงระดับมาสเตอร์ ทำให้ Honda CBR250RR คือสปอร์ตตัวท๊อปพิกัดเริ่มต้นที่แทบจะเหนือกว่ารุ่นอื่นในคลาสเดียวกันเลยครับ

 

เส้นสายสุดปราดเปรียว...ให้อารมณ์สปอร์ตได้อย่างเต็มตัว

 

          เริ่มแรกที่จุดเด่นภายนอกของเจ้า Honda CBR250RR กับชุดแฟริ่งรูปแบบ Aerodynamically Layered Velocity Cowl ที่มีความดุดัน เกรี้ยวกราด ให้อารมณ์รถสปอร์ตอย่างแท้จริง พร้อมเส้นสายเฉียบคม ปราดเปรียว ผนวกกับโครงสร้างเฟรมถัก Truss Frame ออกแบบด้วยเทคโนโลยี CAE (Computer Aided Engineering) ให้สมดุลย์น้ำหนักบาลานซ์ได้ดี แข็งแรงทนทานในเรื่องของการบิดตัว และที่สำคัญมีน้ำหนักเบา ด้วยความที่มีดีไซน์ที่ถ่ายทอดจากสายพันธุ์รถแข่ง การออกแบบอย่างถูกต้องตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamic) เป็นสิ่งที่ทำให้ Honda CBR250RR คันนี้ มีความพิเศษและโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ช่อง Air Duct ที่อยู่แฟริ่งข้าง ช่วยเข้ามาทำหน้าที่เสริมการระบายความร้อนของตัวเครื่องยนต์ และช่วยให้การไหลผ่านของลมที่เข้ามาปะทะกับตัวรถได้เป็นอย่างดี

 

ชุดไฟหน้า LED โฉบเฉี่ยวและเกรี้ยวกราด

 

 

          ในส่วนของหน้าตาคงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะทาง Honda เขาได้จัดหนักจัดเต็ม ดุดัน เฉียบคมของไฟหน้าคู่ LED 2 ชั้นแบบ Double-Layered ให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเจ้า Honda CBR250RR ด้วยการวางตำแหน่งไฟหน้าคู่บน-ล่าง ให้ส่องสว่างพร้อมกัน จนบอกได้ว่าดุกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ผนวกกับไฟเลี้ยวแบบ LED และไฟท้าย LED ที่รับเข้ากันกับทรวดทรงของตัวรถได้อย่างลงตัวไปทุกจุด

 

โช้คหน้า Up Side Down จาก Showa ขนาด 37 มม.

 

สวิงอาร์มหลังอลูมิเนียม เบา แข็งแรง ทนทาน

 

          อัพเกรดขึ้นไปอีกขั้นในโซนของช่วงล่างสมรรถนะสูง เริ่มที่ชุดโช้คหน้าแบบหัวกลับ Up Side Down จากแบรนด์ Showa ขนาด 37 มม. ซึ่งเป็นอะไรที่ค่อนข้างเซอร์ไพรซ์เอาการ กับการให้โช้คหน้าแบรนด์เทพในรถพิกัด 250 ซีซี. ควบคู่กับระบบเบรก ABS แบบ 2 Channel ทำงานแยกระบบเบรกหน้า-หลัง พร้อมกับปั๊มเบรกหน้าแบบ Axial Mount แบบสองลูกสูบและดิสก์เบรกหน้าเดี่ยวขนาด 310 มม. ขยับมาถึงด้านหลังกับการอัพเกรดความเหนือชั้นของช่วงล่างขึ้นไปอีก ด้วยสวิงอาร์มอลูมิเนียมที่มีความโดดเด่นในด้านความเบาและทนทานสูงควบคู่กับโช้คอัพหลังเดี่ยว Pro-link สามารถปรับเซ็ทค่าความแข็ง-อ่อนได้ถึง 5 ระดับ และล้อแม็กอลูมิเนียม 7 ก้าน รัดด้วยยางเรเดียลขนาดยางหน้ามาตรฐานอยู่ที่ 110/70 R17 และยางหลังอยู่ที่ 140/70 R17 ทำให้เข้ากับรูปทรงของตัวรถได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับไบค์เกอร์ผู้ที่ต้องการความพลิ้วไหวในสนามแข่งอย่างแน่นอนครับ

 

จัดจ้านในย่านนี้

 

          ส่งท้ายกันที่หมัดเด็ดของเจ้า Honda CBR250RR สปอร์ตไบค์ตัวจี๊ดน้องใหม่ของ Honda ที่พร้อมคว่ำคู่แข่งในคลาสเดียวกันให้อยู่หมัด ด้วยเครื่องยนต์พิกัด 250 ซีซี. 2 ลูกสูบ Parallel Twin DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ  ทำให้หลายๆ คนต่างออกความเห็นกันว่า...จะสู้กับคลาส 300 และ 400 ของค่ายคู่แข่งได้อย่างไร ในจุดนี้ BoxzaRacing จะพามาเจาะลึกสเปคความเจ๋งของเครื่องยนต์ 250 ซีซี. บล็อคนี้กันครับ เริ่มด้วยการออกแบบจัดวางระบบภายในเครื่องยนต์ให้มีความกระทัดรัด ไม่ใหญ่เทอะทะจนเกินไป และทำงานได้อย่างทรงประสิทธิภาพสูงสุด สิ่งที่ตามมานั่นก็คือน้ำหนักของเครื่องยนต์ที่เบาเป็นพิเศษ ด้วยการใช้ เสื้อสูบอลูมิเนียม ที่มีน้ำหนักเบาระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี เจาะเข้าไปถึงภายในเสื้อสูบกับ ลูกสูบที่มีการเคลือบสารโมลิบดีนัม ที่มีความพิเศษคือ ลดแรงเสียดทาน ทำให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พร้อมรีดแรงม้าออกมาได้ถึง 38 ตัว ที่ 12,500 รอบ/นาที ในส่วนของแรงบิดอยู่ที่ 23.3 นิวตัน-เมตร ที่ 11,000 รอบ/นาที และอีกหนึ่งความโดดเด่นของเครื่องยนต์ 250 ซีซี. บล็อคนี้ คือ ความจัดจ้านที่สามารถลากรอบลึกๆ ได้สูงสุดถึง 14,000 รอบ/นาที โดยมีเรดไลน์อยู่ที่ 16,000 รอบ/นาที เรียกได้ว่าความแรงจี๊ดจ๊าดสมกับเป็นรหัส RR จริงๆครับ

 

ตำแหน่งแฮนด์จับโช้คใต้แผงคอ...สื่อถึงการขับขี่แบบสปอร์ตอย่างแท้จริง

 

ท่อไอเสียรูปทรงใหม่ออกคู่...ฟิลสปอร์ตมาเต็ม

 

          พร้อมกับขุมพลังความแรงในส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ที่ถูกถ่ายทอดมาจากรถแข่ง MotoGP อย่าง Honda RC213V ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์มีความจัดจ้านอยู่ตลอดเวลาในทุกรอบของการขับเคลื่อนและตอบสนองแรงบิดได้ในทุกย่านของความเร็ว ผนวกกับเทคโนโลยีที่เพิ่มความสะใจและครบทุกอารมณ์ให้กับผู้ขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่ที่สามารถเลือกเองได้ 3 ระดับ เริ่มที่โหมด Comfort ที่ทำหน้าที่ในสถานการณ์ขับขี่ภายในเมืองหรืออยากใช้พละกำลังเครื่องยนต์ที่มีความนิ่มนวลไม่จัดจ้าน ต่อด้วยโหมด Sport เพื่อเพิ่มความเร้าใจและการตอบสนองของคันเร่งให้มันส์ขึ้นกว่าเดิม และโหมดสุดท้ายคือ Sport+ กับการอัดฉีดพลังความแรงปล่อยเต็มสูบขั้นสูงสุด เหมาะสำหรับการขับขี่ในสนามแข่งตามคอนเซ็ปต์ของเจ้า Honda CBR250RR ที่ได้ออกแบบมา ผนวกกับระบบคันเร่งไฟฟ้า Throttle-By-Wire ที่ทำงานผสานกับเซ็นเซอร์ APS (Accelerator Position Sensor Unit) ที่มีหน้าที่ตรวจวัดแรงบิดของคันเร่งเพื่อส่งข้อมูลไปยัง ECU และประมวลผลสั่งการร่วมกับการเปิด-ปิดเรือนลิ้นเร่งอย่างแม่นยำ เพื่อให้การตอบสนองคันเร่งให้สั่งได้ดั่งใจไม่มีอาการสะดุด และสุดท้าย...ท้ายสุดกับท่อไอเสียดีไซน์สุดเท่ห์แบบคู่ ที่ให้เสียงคำรามและรีดพลังแรงม้าออกมาอย่างเต็มสมรรถนะ

 

จะคุ้มหรือไม่คุ้ม...ขึ้นอยู่ที่ใจคุณเลือก

 

          เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับสุดยอดรถสปอร์ตไบค์คลาสเริ่มต้น ที่มาพร้อมกับสมรรถนะสูงในทุกๆ ด้าน ด้วยการถอด DNA จากรถแข่ง MotoGP มาอยู่ในเครื่องยนต์พิกัด 250 ซีซี. กับเจ้า Honda CBR250RR ด้วยราคาค่าตัว 249,000 บาท โดยมีสีให้เลือก 2 สีคือ สีดำและสีแดง...เรียกได้ว่าการเปิดราคามาขนาดนี้ ย่อมมีการวิจารณ์ไปต่างๆ นานาว่าแพงเกินไปหรือพอตัวกำลังดี ในจุดๆ นี้คงต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนตัวของผู้ที่เข้าใจในวัตถุประสงค์การออกแบบที่แท้จริงของรถรุ่นนี้ แต่ถ้าในความเห็นของผู้เขียน ขอบอกเลยครับว่าราคาสองแสนกลางๆ กับสมรรถนะที่เหนือสุดในคลาส และเทียบเคียงกับรถสปอร์ตไบค์รุ่นใหญ่บางรุ่นได้สบายๆ มันก็เป็นอะไรที่คุ้มค่า...พอรับได้เลยทีเดียวครับ สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของแล้ว Honda CBR250RR จะเริ่มวางจำหน่ายที่ Honda Wing Center พร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไปครับ สำหรับครั้งนี้ BoxzaRacing ต้องขอลากันไปก่อน...สวัสดีครับ

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook