เขียนโดย: D wisanuporn

เมื่อ: 2 กันยายน 2563 - 12:29

Bajaj ทน แกร่ง เท่ห์ ที่เขาว่า...มันเป็นไง ? ได้รู้กันกับ First trip in Thailand.

 

         บริษัท วรูม จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ Bajaj, KTM และ Husqvarna จัดกิจกรรมทดลองขี่มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุด หลังจากที่เปิดตัวครบทุกรุ่นในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา และในโอกาสนี้ ทางบริษัทฯ ได้เชิญสื่อมวลชนสายยานยนต์ร่วมทดลองสมรรถนะ และสัมผัสประสบการณ์การขี่ Bajaj ครบทุกรุ่น ในทุกสภาพถนน 3 วัน 3 เส้นทาง ทั้งกาญจนบุรี ระยอง และจบทริปสุดท้ายที่เขาใหญ่ และครั้งนี้ ทีมงาน BoxzaRacing ได้รับเกียรติเชิญไปขี่เป็นกลุ่มแรกของประเทศ กับเส้นทาง กรุงเทพมหานคร- อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ระยะทางไป กลับรวมกว่า 400 กิโลเมตร โดยในครั้งนี้มีมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ให้ทดลองกันถึง 4 รุ่น Pulsar NS 160, Pulsar NS 200, Pulsar RS 200 และ Dominar 400  

 

 

Bajaj Pulsar NS 160

          ในรุ่นแรกนับว่าเหมาะสมลงตัวกับสภาวะการขี่เมืองมากที่สุด จากการทดลองวิ่งในเมือง ช่วงเริ่มต้น แม้จะเป็นเช้าตรู่แต่ก็มีรถสะสมพอให้ได้ขยับตัวกันพอสมควร ด้วยเฟรมแบบ Perimeter ทำรูปทรงของ Bajaj Pulsar NS 160 ไม่ใหญ่เกินไป แต่ติดที่ตำแหน่งท่านั่งที่สูงและเบาะกว้างไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับขนาดของตัวขี่ความสูง 170 เซนติเมตร ทำให้การประคองรถดูขาดๆ เกินๆ ไปนิด...แต่นั่นเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเท่านั้น เครื่องยนต์ DTSI 1 สูบ ระบบหัวฉีด 2 หัวเทียน ขนาด 160 ซีซี. มีการตอบสนองได้ค่อนข้างดีในช่วงต้น แต่เมื่อต้องวิ่งทางยาวขึ้นจะเห็นผล ต้องบอกว่าเป็นรถที่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก อาจจะยังไม่เหมาะกับการออกเดินทางไกลมากนัก เพราะกำลังเครื่องยนต์น้อยเกินไป แต่หากไม่เร่งรีบก็สามารถประคองไปได้ตลอดรอดฝั่ง แบบไม่ต้องกังวลอะไร   

 

 

Bajaj Dominar 400

          ต่อกันในช่วงสายกับการเดินทางระยะไกลขึ้น มุ่งหน้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี เส้นทางสะดวก พร้อมให้ทดลองสมรรถนะได้เต็มที่ แทบไม่ต้องบอกว่าเครื่องยนต์แบบ DTSI 1 สูบ ขนาด 400 ซีซี. Dual Overhead Camshaft จ่ายเชื่อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด จะมีความแรงระดับไหน เฟรมแบบ Solid Stamp Perimeter Frame ทำงานร่วมกับ ช็อคอับหน้าแบบ Upside Down ขนาด 43 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าใหญ่ทีเดียว ส่วนช็อคหลังเป็นแบบ Mono Shock ด้วยระบบช่วงล่างลักษณะนี้ ทำให้อาการของรถออกไปแนวเฟิร์ม กระชับ อาจให้ความรู้สึกกระด้างไปบ้าง หากคาดหวังเรื่องความนุ่มนวล ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลโดยตรงกับการขี่ในช่วงความเร็วต่ำ แต่ตรงกันข้ามกับช่วงทำความเร็วที่ดูดซับแรงได้ดี พูดง่ายๆ คือ หนึบ ส่วนกำลังที่มีให้ใช้ในการเดินทางเหมาะสมกับระยะทาง และเส้นทางได้ดี อาการเหนื่อยล้าจากการขี่มีน้อย โดยรวมถือว่าดี อัตราเร่งสร้างความมั่นใจได้มากกว่า ความเร็วปลายที่ไม่ได้ทำ Top Speed แต่ก็นับว่าเร็วแรงดูดีไม่น้อย เพียงพอในระดับการใช้งานในทุกรูปแบบอย่างแน่นอน

 

 

Bajaj Pulsar NS 200 FI ABS, Pulsar RS 200 FI ABS

          ในช่วงครึ่งทางการทดลอง ถูกเปลี่ยนมาขี่ Bajaj Pulsar NS 200 FI ABS  ความจุเครื่องยนต์ 200 ซีซี. ที่สามารถแสดงสมรรถนะออกมาระหว่างการเดินทางบนถนนไฮเวย์จากกาญจนบุรีกลับเข้าเมือง ทำได้ดี ด้วยรูปทรงแบบ Naked Bike ที่เหมาะกับการเดินทางไม่ไกลมากเกินไป เครื่องยนต์มีกำลังพอให้ใช้งานได้ในทุกย่านความเร็ว ทั้งออกตัว เร่งแซง หรือแม้แต่วิ่งแช่ความเร็ว สามารถตอบสนองได้ดีไม่น้อย  

 

 

          จบการทดลองขี่กับรุ่น Pulsar NS 200 FI ABS เปลี่ยนมาขี่ในรุ่น Pulsar  RS 200 FI ABS ที่ถูกออกแบบให้เป็นแนวสปอร์ต ต้องบอกว่าทั้งสองรุ่นนี้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน แม้ว่ารถทั้งสองรุ่นจะพื้นฐานเหมือนกัน สำหรับรุ่น Pulsar RS 200 FI ABS มีโอกาสได้ลองขี่ในเส้นทาง 2 รูปแบบ ทั้งบนถนนไฮเวย์ และเส้นทางในเมืองที่การจราจรคับคั่ง ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 200 ซีซี. ให้กำลังที่  24.5 แรงม้า ที่สำคัญกับระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้การขี่ในเมืองช่วงรถติดค่อนข้างดี ปัญหาความร้อนที่จะเกิดคงไม่ต้องพูดถึง รวมถึงระบบเบรก ABS ด้านหน้า ที่ส่งผลเรื่องความปลอดภัยทั้งช่วงที่ขี่ระยะทางยาว และการเบรกบ่อยครั้งในเมือง ทว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาการเมื่อยล้าที่เกิดจากท่านั้นเพราะรูปทรงที่บังคับแม้จะให้ความรู้สึกที่กระชับก็ตาม และเมื่อต้องขี่ในระยะทางยาวอาจส่งผลมากกว่ารุ่น Pulsar NS 200 FI ABS

 

 

          แม้ว่าการเดินทางในครั้งนี้ ไม่มีโอกาสได้ทดลองสมรรถนะกันแบบสุดขั้วของแต่ละรุ่น เนื่องจากเวลาค่อนข้างจำกัด แต่ในภาพรวมก็บอกได้ในระดับหนึ่ง เริ่มจากการดีไซน์ของ Bajaj ในทุกรุ่น  มีการผสมผสานเอาจุดเด่นของรถในหลายๆ แบรนด์มาใช้ซึ่งน่าจะเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของรถสัญชาติอินเดียนี้ สีสันให้ความรู้สึกกลมกลืนกับยุคสมัย จนบ้างครั้งคิดว่าเป็นรถจากแบรนด์คู่แข่ง ซึ่งคิดว่าหลังจากนี้ ทาง Bajaj น่าจะมีแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องของสีสันตัวรถ

 

 

          องค์ประกอบส่วนอื่น เช่น วัสดุที่นำมาใช้ รวมถึงเรื่องการประกอบหากให้พูดกันตามเนื้อผ้า ยังอยู่ในมาตรฐานของผู้ผลิตในอินเดีย ซึ่งต้องมีการปรับแก้เพื่อให้เกิดความลงตัวมากขึ้น หากต้องการเจาะกลุ่มผู้ใช้ในบ้านเรา และส่วนสำคัญคือ เรื่องของสมรรถนะในการขี่ คงต้องเลือกว่าจะเอามาใช้งานในทางไหน จะใช้งานในเมือง หรือเดินทางไกล ซึ่งทั้ง 4 รุ่นนี้ ก็มีรูปแบบแตกต่างกันชัดเจน ส่วนอัตราความประหยัดอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่ยังไม่ตายตัวเพราะเป็นการวิ่งในแบบปกติธรรมดา ไม่ถึงกับประคองความเร็ว เอาเป็นว่าครั้งนี้น่าจะเป็นการสัมผัสกับรถในแบบผิวเผินหรือให้พูดชัดๆ คงเป็นการทำความรู้จักรถแดนภารตะกันก่อนที่จะนำมาขี่ทดลอง กันแบบสุดขั้วในทุกด้าน และแน่นอนว่า ทีมงาน BoxzaRacing สายมอเตอร์ไซค์ จัดให้ครบทุกรสชาติในโอกาสหน้าอย่างแน่นอน

 

 

าคาจำหน่าย (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม, ไม่รวมทะเบียน และพ.ร.บ.)

Bajaj Pulsar NS 160                         ราคาจำหน่ายพิเศษช่วงแนะนำ              69,800 บาท

Bajaj Pulsar NS 200 FI ABS            ราคาจำหน่ายพิเศษช่วงแนะนำ              79,800 บาท

Bajaj Pulsar RS 200 FI ABS            ราคาจำหน่ายพิเศษช่วงแนะนำ              89,800 บาท

Bajaj Dominar 400                          ราคาจำหน่ายพิเศษช่วงแนะนำ              115,000 บาท

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook