ในครั้งนี้เราก็มาอยู่กับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจากค่าย SLEEK ซึ่งเป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย- สิงคโปร์ ที่เพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานนี้ และรุ่นที่เราจะแนะนำนั่นก็คือ SLEEK TYPE-V ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใน Segment Urban Scooter ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในตอนนี้ ซึ่งรายละเอียดของตัวรถจะเป็นอย่างไรบ้างไปชมกันได้เลย
พรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์ คล่องตัวสูง เหมาะใช้งานในเมือง
ดีไซน์ของ SLEEK TYPE-V จะเห็นว่าตัวรถถูกออกแบบมาในสไตล์ของ พรีเมียมสกู๊ตเกอร์ ด้วยเส้นสายที่เฉียบคม ที่มาพร้อมกับไฟหน้า LED โฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ส่วนไฟท้ายแบบไดนามิกไฟท้ายแบบไดนามิกดีไซน์ทันสมัย พร้อมแถบสะท้อนแสงโดดเด่นสะดุดตา สว่างชัดเจนขับขี่อย่างปลอดภัยในเวลากลางคืน ในส่วนของบอดี้ถูกออกแบบมาให้มีความปราดเปรียว และคล่องตัว เหมาะกับการใช้งานในเมืองและชีวิตประจำวัน
ขุมพลังเทียบเท่าเครื่องสันดาปขนาด 115 cc
ขุมพลังแห่งการขับขี่ที่ขับเคลื่อนด้วย Bosch Hub Motor ที่ให้กำลังขับ 3000w ซึ่งเทียบเท่ากับรถเครื่องสันดาปขนาด 115 cc. สามารถท็อปสปีดสูงสุดที่ 80 กม./ชม. ดิสก์เบรคหน้า/หลัง ทำงานร่วมกับระบบเบรค CBS ส่วนระบบกันสะเทือนโช้คอัพหน้าไฮดรอลิกหน้า/หลัง พร้อมด้วยวงล้อหน้า/หลัง ขนาด 12 นิ้ว วงล้อหน้า/หลังรัดด้วยยาง Deestone ขนาด 70/120
ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
สำหรับพลังงานของ SLEEK TYPE-V จ่ายพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด 60V 35 Ah สามารถชาร์จได้ 2 รูปแบบคือ เสียบชาร์จผ่านตัวรถโดยตรงหรือถอดแบตเตอรี่ออกมาชาร์จข้างนอกก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งตัวชาร์จที่ SLEEK ให้มานั้นเป็นที่ชาร์จแบบชาร์จเร็ว และสามารถเสียบเข้ากับปลั๊กไฟบ้านได้ ส่วนแแบตเตอรี่นั้นสามารถใช้งานขับขี่ได้มากถึง 200 กม. ต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% (แบตเตอรี่ จำนวน 2 ก้อน) และวิ่งในความเร็วคงที่ไม่เกิน 35 กม./ชม.
ปรับโหมดขับขี่ได้พร้อมกับฟังก์ชั่นสุดล้ำ
ในส่วนของฟังก์ชั่นที่ SLEEK ให้มานั้นบอกเลยว่าไม่ธรรมดาจัดมาให้ใช้เพื่อความสะดวกสบายในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะเป็น โหมดการขับขี่ 3 โหมด และเกียร์ R สำหรับถอยหลัง ซึ่งจะแสดงการใช้งานผ่านหน้าจอเรือนไมล์ LCD มองเห็นชัดเจนทุกฟังก์ชั่นใช้งานไม่ว่าจะเป็น มาตรวัดความเร็ว ระยะทางรวม และปริมาณของแบตเตอรี่ อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบกุญแจรีโมทหรือสมาร์ทคีย์ที่สามารถล็อค-ปลดล็อค หรือค้นหาตำแหน่งของรถที่จอดอยู่ได้ อีกทั้งยังมีวิทยุ FM และการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่านระบบ Bluetooth กับระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ ซึ่งเข้ามาเสริมความปลอดภัยและเพิ่มอรรถรสในการขับขี่อีกด้วย ส่วนช่องเก็บสัมภาระใต้เบาะสามารถใส่หมวกกันน็อคเต็มใบได้หนึ่งใบ
ขี่งาย ฟังก์ชั่นให้เล่นเพียบ !! ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน !!
จากที่เราได้ทดสอบการขับขี่บอกเลยว่า SLEEK TYPE-V เป็นรถขับขี่ง่ายมีความคล่องตัวสูงมาก สามารถขับขี่ใช้งานในที่การจราจรแออัดแบบในกรุงเทพฯ ได้อย่างสบายๆ ด้วยขนาดของตัวรถมีความกระทัดรัด ทำให้การขับขี่ผ่านช่องทางเดินรถในเวลาที่รถติดเป็นเรื่องง่ายๆ ตำแหน่งวางเท้าและท่านั่งถูกออกแบบมาให้นั่งขับขี่ได้อย่างสบายๆ แม้ว่านั่งขับขี่เป็นระยะเวลานานก็ไม่เมื่อยก้นเพราะตัวเบาะนั้นมีความนุ่มนวลมากๆ ในส่วนของตำแหน่งวางเท้าออกแบบมาได้อย่างลงตัวสามารถนั่งขับขี่ได้ทั้งในท่านั่งปกติ หรือขับขี่ในท่านั่งแบบเหยียดขาไปด้านหน้าก็สามารถทำได้เช่นกัน
ในส่วนของสมรรถนะขุมพลังขับเคลื่อน Bosch Hub Motor ที่ให้กำลังขับ 3000w ซึ่งเทียบเท่ากับรถเครื่องสันดาปขนาด 115 cc. นั่นเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน การใช้งานโหมดการขับขี่ทั้ง 3 โหมดซึ่งจะถูกแสดงสถานะอยู่บนหน้าจอเรือนไมล์ดิจิตอลแบบ LCD เป็นตัวเลข 1 2 3… โดยจะแบ่งออกเป็นโหมด ECO, Standard และ Sport
จากที่ได้ทดลองโหมดการขับขี่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งในโหมด ECO นั้นจะถูกจำกัดความเร็วไว้ให้ไม่เกิน 30 กม./ชม. และมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานน้อยที่สุด แต่ก็แลกมาด้วยการตอบสนองของคันเร่งที่ตัวรถจะไม่พุ่งปรู๊ดปร๊าดเหมือนกับโหมด Sport ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้ความเร็วสูงสุดที่ 80 กม./ชม. ให้การตอบสนองของคันเร่งที่ค่อนข้างไว สามารถใช้เพื่อเร่งแซงได้อย่างสบายๆ และแน่นอนว่ามันต้องแลกกับอัตราสิ้นเปลืองพลังงานที่มากขึ้น ส่วนโหมด Standard บอกเลยว่าเป็นโหมดที่เหมาะสมกับการใช้งานปกติทั่วไป การตอบสนองของคันเร่งมาไวกว่า ECO แต่ก็ไม่เท่ากับโหมด Sport ส่วนความเร็วทำได้สูงสุดไม่เกิน 75 กม./ชม. ที่สำคัญโหมดการขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนขณะขับขี่ได้อีกด้วย
ด้านสมรรถนะช่วงล่างโชคอัพหน้า/หลัง ไม่แข็งหรืออ่อนเกินไป ตัวรถยึดเกาะติดถนนสามารถขับขี่รถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ช่วยซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดีเพียงพอต่อการใช้งาน ระบบดิสก์เบรคหน้า/หลัง ทำงานร่วมกับระบบเบรค CBS ตอบโจทย์การงานในเมืองช่วยหยุดรถได้อย่างมั่นใจ
ในส่วนของฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีที่ให้มาอย่างการจำลองเสียงเครื่องยนต์สามารถปรับความเบา-ดังได้ และเพิ่มความปลอดภัยและอรรถรสขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี โดยเสียงจำลองเครื่องยนต์จะมาตามที่มือบิดคันเร่ง ให้ฟิวลิ่งขับขี่เหมือนกับรถเครื่องสันดาป นอกจากนี้ยังมีวิทยุ FM และสามารถเชื่อมต่อลำโพง Bluetooth ของตัวรถเพื่อฟังเพลงหรือการแจ้งเตือนของระบบนำทางจากสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย ส่วนช่องเก็บสัมภาระใต้เบาะสามารถเก็บหมวกกันน็อคแบบเต็มใบได้ 1 ใบ และยังพอมีพื้นที่เหลือให้เก็บสัมภาระได้ส่วนหนึ่ง ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานของเกียร์ถอยหลัง หรือเกียร์ R สามารถใช้งานง่ายเพียงแค่ขยับปลายนิ้วกดปุ่ม R ที่ฝั่งซ้ายและบิดคันเร่งเบาๆ มอเตอร์ก็จะทำงานทันที และสามารถถอยหลังได้มากถึง 10 กม./ชม. ซึ่งเพียงพอต่อการช่วยทดแรงถอยหลังขึ้นจากทางลาดชันได้อย่างสบายๆ
ใช้งานระยะยาวประหยัดกว่ารถน้ำมัน!!
สำหรับ SLEEK TYPE-V ต้องบอกเลยว่าเป็นรถที่ถูกออกแบบมาเหมาะกับการใช้งานชีวิตประจำวันจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไป-กลับที่ทำงาน หรือเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ภายในเมือง ตัวรถมีความกระทัดรัด คล่องตัวสูง อีกทั้งสมรรถนะที่ให้มานั้นเพียงพอต่อการใช้งานอย่างแน่อน และสิ่งที่ TYPE-V ทำให้เราประทับใจก็มีอยู่หลายจุดไม่ว่าจะเป็น โหมดการขับขี่ทั้ง 3 โหมดที่ให้ฟิลลิ่งการขับขี่ที่แตกต่างกันอย่างลงตัว และสามารถเปลี่ยนโหมดตามความต้องการได้อย่างรวดเร็ว ถัดมาในส่วนของเกียร์ R จุดนี้บอกเลยว่าตัวผมเองชอบมากๆ เพราะช่วยทดแรงเวลาถอยหลังขึ้นจากหลุ่ม บ่อหรือทางลาดชันได้อย่างสบายๆ ซึ่งถ้าเป็นคนตัวเล็กๆ หรือผู้หญิง การดึงรถถอยหลังจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ส่วนการขับขี่ลุยน้น้ำท่วมตัวรถสามารถลุยได้น้ำสูงไม่เกินครึ่งล้อ
อีกหนึ่งส่วนที่มีความโดดเด่นเลยคือดีไซน์และฟังก์ชั่นใช้งาน โดยในส่วนของการดีไซน์ตัวรถบอกเลยว่า หล่อโดดเด่นสะดุดตา ไปจอดที่ไหนก็มีแต่คนมองแน่นอน อีกทั้งยังมีเสียงจำลองเครื่องยนต์ที่ให้ฟิลลิ่งการขับขี่ไม่เหมือนใคร และระบบเชื่อมต่อ Bluetooth ที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และช่องสำหรับเสียบสายชาร์จ USB อีกด้วย ส่วนแบตเตอรี่ชาร์จได้ง่ายๆ เพียงแค่เสียบตัวชาร์จเข้ากับปลั๊กไฟบ้าน และสามารถได้ 2 แบบคือ เสียบชาร์จเข้ากับตัวรถโดยตรง หรือจะจะถอดแบตเตอรี่ชาร์จด้านนอก ซึ่งสามารถยกแบตเตอรี่ เข้า-ออกได้อย่างสบายๆ แม้ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือคนที่มีแรงน้อยๆ ส่วนระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ใช้เวลาเพียงแค่ 3-4 ชม. ด้านค่าใช้จ่ายพลังงานขับเคลื่อนหากมองในระยะยาวประหยัดกว่าการใช้น้ำมันอย่างแน่นอน
ขยายสาขา และ สถานี Swap Battery ทั่วประเทศ
จากที่เราได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของ SLEEK ได้ทราบมาว่าภายในปี 2023 จะมีการขยายศูนย์บริการและทำสถานี Swap Battery ภายในปั๊มน้ำทั่วประเทศอีกด้วย ซึ่งในตอนนี้ SLEEK ได้มีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศมากกว่า 22 จังหวัด และยังได้ลงนาม MOU ร่วมกับ Bosch Thailand ที่ให้ความสนับสนุนในการพัฒนารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า EV และยังได้ความร่วมมือจากทางธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่จะทำให้ลูกค้าของ SLEEK สิทธิพิเศษของอัตราดอกเบี้ยจากกรุงศรีอีกด้วย
สุดท้ายนี้ต้องบอกเลยครับว่าในยุคที่น้ำมันแพงแบบนี้การเลือกใช้พลังงานทางเลือกอย่างรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าก็ช่วยการประหยัดค่าใช้จ่ายได้ไม่น้อยเมื่อเทียบจากการใช้งานในระยะยาว และ SLEEK ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของรถจักรยานยนต์ EV ที่มั่นใจและไว้วางใจได้ในด้านของคุณภาพและสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน สำหรับผู้ที่สนใจ SLEEK TYPE-V มีตัวเลือกให้ถึง 4 สีด้วยกันคือ สีขาว (Ghost White), สีดำ (Piano Black), สีเทา (Coral Gray) และ สีแดง (Lava Red) ส่วนราคาจะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ SLEEK TYPE-V Lite ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ 1 ก้อน ในราคา 97,500 บาท และ SLEEK TYPE-V มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 2 ก้อน ในราคาค่าตัว 129,000 บาท และในครั้งหน้า Boxzaracing จะนำรถรุ่นไหนจาก SLEEK มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ชมกันก็ติดตามรอกันไว้ได้เลย
