Honda LEAD125 หรือที่หลายๆ คนมักเรียกกันในอีกชื่อว่า “จิ้งหรีด” ซึ่งในเวลานี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีกระแสฮิตจนเรียกได้ว่าติดลมบนกันเลยทีเดียว และเที่ผ่านมาไม่นานนี้ Boxzaracing ได้มีโอกาสไปร่วมขับขี่แบบวันเดย์ทริปในกิจกรรม Minimize Bangkok : LEAD125 trip โดยได้ขับขี่ LEAD125 กันแบบเต็มๆ 1 วัน บอกเลยว่าทริปนี้ จิ้งหรีดซิ่งบิดหมดปลอก
ก่อนที่จะเข้าเรื่องการขับขี่มาดูดีไซน์ภายนอกกันก่อนดีกว่า เริ่มกันที่ดีไซน์มินิมอลด้วยเส้นสายโครเมียมรับกับชุดไฟดีไซน์เรียบหรู ทั้งด้านหน้าและหลัง พร้อมหน้าปัดเรือนไมล์แบบ V-Shaped Meter แสดงผลครบทุกฟังก์ชั่น ตั้งแต่อัตราประหยัดน้ำมัน ไฟจนถึงการแจ้งเตือนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
ในส่วนของการขับขี่ใน Minimize Bangkok : LEAD125 trip โดยเริ่มต้นกิจกรรมกันที่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า กรุงเทพฯ เปิดประเดิมการวอร์มอัพด้วยด้วยการขับขี่ทำความเร็วทางตรงระยะทางประมาณ 100 เมตร ในจุดนี้สัมผัสแรกที่สัมผัสได้คือการออกตัวที่สมูทและนุ่มนวลของขุมพลังเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว ส่วนอัตราเร่งจะเป็นยังไงขออุบไว้ก่อน
หลังจากที่ได้วอร์มอัพกันไปเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้ออกสตาร์ทขับขี่กันภายในเมือง ซึ่งใช้เวลาไม่นานเลยกับการปรับตัวเข้าหา LEAD125 ด้วยตำแหน่งท่านั่งขับขี่ที่สบายๆ มีพื้นที่วางเท้าค่อนข้างกว้าง และตัวเบาะนั่งที่หนานุ่มช่วยให้ผ่อนคลายขณะขี่ได้ไม่น้อย หนังหุ้มเบาะออกแบบมาได้เป็นเมื่อลองเอามือลูบสัมผัสได้ถึงความหนืดของหนังหุ้มเบาะ แต่เมื่อนั่งแล้วก็ยังให้ความหนึบไม่ลื่นไหลไปด้านหน้าหรือด้านหลังขณะขับขี่ ส่วนของการควบคุมระยะและตำแหน่งของแฮนด์อยู่ในตำแหน่งที่เป็นมิตรกับผู้ขับขี่มากๆ การเลี้ยว และการควบคุมสามารถทำได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะเป็นมือใหม่ก็สามารถขับขี่ Honda LEAD125 ได้อย่างไร้ข้อกังวลอย่างแน่นอน
ในส่วนของสมรรถนะเครื่องยนต์ eSP+ ขนาด 125cc. 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่านี้คือ LEAD 125 คือรุ่นแรกในรถจักรยานยนต์คลาส 125cc. ของฮอนด้าที่ใช้เป็นเครื่องยนต์ eSP+ หนึ่งในเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของฮอนด้า จากที่ได้สัมผัสฟีลลิ่งขับขี่ของเครื่องยนต์บล็อคนี้ยอมรับเลยว่าให้แรงบิดที่ยอดเยี่ยม การเปิดคันเร่งส่งรถเพื่อ แซง หรือทำความเร็วนั้นไม่ใช่อุปสรรคของเจ้าจิ้งหรีดเลยสักนิด การทำความเร็วในช่วงต้น-กลางสามารถเร่งทำความเร็วได้อย่างชิลๆ ส่วนในช่วงปลายยังไหลไปได้แบบหมดห่วง การทำท็อปสปีดในท่านั่งขับขี่ปกติก็สามารถทำได้มากมากถึง 115 กม./ชม. แต่เมื่อได้ลองก้มหมอบลงมาเจ้าจิ้งหรีดสามารถซิ่งไปได้มากกว่า 120 กม./ชม. ซึ่งในจุดนี้ทำให้รู้สึกประทับใจอยู่ไม่น้อยกับความเร็วที่ทำได้
ด้านสมรรถนะช่วงล่างระบบกันสะเทือนหน้าเทเลสโคปิค และยูนิตสวิง ที่ด้านหลังเพียงพอกับการใช้งานซับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างหมดห่วง ส่วนระบบเบรกที่ให้มาเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของ Honda ที่ใช้ในหลากหลายรุ่นคือ Combi Brake (คอมบาย เบรค) ระบบการกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้า และล้อหลังโดยอัตโนมัติ ช่วยให้หยุดและชะลอรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ในส่วนของฟังก์ชั่นเพิ่มความสะดวกสบายที่ให้มานั้นตอบโจทย์การใช้งานหลายๆ คนอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็น ระบบกุญแจรีโมท ตะขอแขวนของด้านหน้า USB Type A กับช่องเก็บของด้านหน้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ และที่ส่วนตัวผู้เขียนชอบมากๆ เลยก็คือช่องเก็บสัมภาระใต้เบาะ ขนาด 37 ลิตร มันกว้างมากๆ ถ้าใครที่สัมภาระเยอะๆ แล้วละก็สามารถยัดใส่ได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องมาสะพายขี่รถให้เมื่อยหลัง อีกทั้งยังมีอีกหนึ่งความสะดวกคือถังน้ำมันด้านหน้าสามารถ เปิด-ปิด ง่ายๆ โดยไม่ต้องลงจากรถ
สรุป
จากที่ได้ลองขับขี่กันมา 1 วันเต็มๆ ใครที่กำลังมองหารถจักรยานยนต์ไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน Honda LEAD125 นอกจากจะเป็นมิตรกับผู้ใช้แล้ว ฟังก์ชั่นการใช้งานถือว่าตอบโจทย์ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมที่ง่าย พละกำลังตอบสนองการขับขี่ได้ดั่งใจ กับฟังก์ชั่นใช้งานอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ บวกกับราคาจำหน่ายแนะนำอยู่ที่ 58,500 บาท คุ้มค่าเกินราคาอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดูคันจริงได้ที่ศูนย์ Honda Wing Center ทั่วประเทศ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ www.thaihonda.co.th เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้า fb.com/hondamotorcyclethailand
