เขียนโดย: Surasak

เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2566 - 10:47

สัมผัสขับขี่ครั้งแรก กับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า KYMCO แบรนด์อันดับ 1 ไต้หวัน เตรียมลุยเมืองไทย

      รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า KYMCO กำลังจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในเมืองไทย ซึ่งทางผู้จัดจำหน่ายเตรียมลุยตลาดในปี 2024 ช่วงไตรมาสแรกของปี โดย Boxzaracing ได้มีโอกาสทดลองขับขี่รถในระยะทางสั้นๆ ถึง 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น I-One FLY, รุ่น S7 และรุ่น S7R

 

 

      ทั้งนี้ทางผู้จัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า KYMCO ได้ยืนยันในเรื่องราคาจำหน่ายของรถไว้ว่า จะมีราคาที่ไม่สูงอย่างแน่นอน โดยเฉพาะรุ่น I-One FLY ที่จะมีราคาใกล้เคียงกับรถสกู๊ตเตอร์ 110 - 125 ซีซี. ในท้องตลาด

 

 KYMCO I-One FLY

 

      KYMCO I-One FLY จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นเล็กสุดที่ได้ทดสอบขับขี่ ซึ่งผู้ผลิตได้ดีไซน์ออกแบบให้รถสามารถตอบโจทย์การขับขี่ใช้งานที่อเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นที่เก็บสัมภาระใต้เบาะที่สามารถเก็บหมวกกันน็อคได้ มีช่องเก็บของตรงหน้ารถพร้อมช่องชาร์จไฟมือถือแบบ USB มีตะขอเกี่ยวอเนกประสงค์ให้ใช้งาน รวมไปถึงพื้นที่วางเท้าผู้ขับขี่มีขนาดใหญ่แบบพื้นเรียบ ซึ่งจะสามารถวางสิ่งของสัมภาระตรงจุดนี้ได้เพิ่มเติม

 

      เช่นเดียวกับเบาะนั่งที่มีการออกแบบดีไซน์ที่เน้นให้ความสบายแก่ผู้ขับขี่ ตัวของเบาะนั่งมีความหนาอยู่พอสมควร ซึ่งใครที่มีคนซ้อนท้ายก็ไม่ต้องกังวลเช่นกัน เพราะมีบาร์ท้ายให้สามารถจับยึดเกาะได้ รวมไปถึงมีที่พักเท้าให้ใช้งาน โดยรถจะมีน้ำหนักอยู่เพียง 90 กิโลกรัมเพียงเท่านั้น

 

 

      สเปกของ KYMCO I-One FLY จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 4,200 W ที่เคลมความเร็วสูงสุดไว้ที่ 74 กม./ชม. มีอัตราเร่ง 0-50 ไว้ที่ 5.9 วินาที ซึ่งแบตเตอรี่จะมีสเปก 50.82V/34.3Ah/1,743Wh ใช้จำนวน 2 ก้อน โดยเคลมระยะทางการขับขี่ไว้ที่ 100 กม./ชาร์จ ตรงจุดนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วในการขับขี่ใช้งานเป็นหลัก

 

มอเตอร์ไฟฟ้า 4,200 W

 

      ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นโช้ค Telescopic ทำงานรวมกับระบบกันสะเทือนหลังแบบยูนิตสวิง ในส่วนระบบเบรกหน้าเป็นดิสก์ และเบรกหลังเป็นดรัม วงล้อให้มาในขนาด 12 นิ้ว สำหรับระบบไฟส่องสว่างเป็น LED ทั้งคัน หน้าจอเรือนไมล์เป็นดิจิทัล ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ ระยะทางการขับขี่ และสัญญาณไฟแจ้งเตือนต่างๆ

 

      ความรู้สึกที่ได้สัมผัสขับขี่ในระยะเวลาสั้นๆ ในพื้นที่จำกัด ภาพรวมการขับขี่ไม่มีตรงจุดไหนชวนให้รู้สึกสงสัยหรือเป็นปัญหา เนื่องจาก KYMCO I-One FLY เป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นเล็กสุดที่ได้ทดลองขับขี่ในครั้งนี้ โดยเรื่องอัตราเร่งสามารถทำได้ดี ก็เทียบเคียงอัตราเร่งได้พอๆ กับรถสกู๊ตเตอร์เครื่องยนต์ขนาด 110 ซีซี. ในท้องตลาด สำหรับเบรกที่ได้ลองเบรกหนักๆ ก็ไม่มีอาการเหวอแต่อย่างใด

 

      ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 4,200 W กับการเซ็ทการออกแบบให้เป็นรถใช้งานอเนกประสงค์ เรื่องความสนุกหรือความมันส์ในการขับขี่ ส่วนตัวถือว่าไม่มีอะไรหวือหวาให้พูดถึง แต่ถ้าในแง่การใช้งานขับขี่ปกติทั่วไป ตอบโจทย์อยู่ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน

 

KYMCO S7

 

      KYMCO S7 เป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นกลางที่ได้ทดสอบในครั้งนี้ โดยรูปลักษณ์การดีไซน์ออกแบบจะมีความสปอร์ตที่ให้ความรู้สึกที่โฉบเฉี่ยว แต่สามารถตอบโจทย์การใช้งานแบบอเนกประสงค์อยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ว่ามอเตอร์ไฟฟ้าจะมีกำลังที่มากขึ้น รถสามารถทำอัตราเร่งกับความเร็วได้ดีขึ้นนั้นเอง

 

      เรื่องของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการใช้งาน เรียกว่ามีให้ใช้อยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ใต้เบาะ (เล็กกว่ารุ่น I-One FLY) มีตะขอเกี่ยวอเนกประสงค์ มีช่องชาร์จไฟมือถือแบบ USB รวมไปถึงที่วางเท้าผู้ขับขี่ขนาดใหญ่แบบพื้นเรียบ โดยรถจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 96 กิโลกรัม

 

 

      สเปกของ KYMCO S7 จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าวางกลางขนาด 7,600 W ที่ส่งกำลังมาที่ล้อด้วยโซ่แบบรถมอเตอร์ไซค์เกียร์ทั่วไปในท้องตลาด ซึ่งบริษัทได้เคลมความเร็วสูงสุดไว้ที่ 95 กม./ชม. และมีอัตราเร่ง 0 - 50 ไว้ที่ 3.5 วินาที โดยแบตเตอรี่จะมีสเปกเป็น 50.82V/34.3Ah/1,743Wh ใช้จำนวน 2 ก้อน และได้เคลมระยะทางการขับขี่ไว้ที่ 100 กม./ชาร์จ ตรงจุดนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วในการขับขี่ใช้งานเป็นหลัก

 

มอเตอร์ไฟฟ้าวางกลาง

 

ส่งกำลังด้วยโซ่

 

      ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นโช้ค Telescopic ทำงานรวมกับระบบกันสะเทือนหลังแบบโช้คคู่ (สามารถปรับพรีโหลดได้) ในส่วนระบบเบรกหน้าเป็นดิสก์ และเบรกหลังก็เป็นดิสก์เช่นกัน วงล้อหน้าให้ขนาด 13 นิ้ว ส่วนวงล้อหลังให้ขนาด 12 นิ้ว สำหรับระบบไฟส่องสว่างเป็น LED ทั้งคัน หน้าจอเรือนไมล์เป็นดิจิทัล ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ ระยะทางการขับขี่ และสัญญาณไฟแจ้งเตือนต่างๆ

 

      รุ่นนี้จะโหมดการขับขี่ Power ให้ใช้งาน ซึ่งจะทำให้รถมีกำลังมากขึ้นกว่าปกติ แต่ก็แลกกับการกินไฟแบตเตอรี่ที่มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งโหมดสามารถ เปิด/ปิด ได้ระหว่างการขับขี่ ไม่ต้องจอดรถให้นิ่งแต่อย่างใด

 

 

      สำหรับความรู้สึกที่ได้ขับขี่ในระยะเวลาสั้นๆ ในพื้นที่จำกัด เรียกได้ว่าเป็นรถที่ขับสนุกพอสมควร เนื่องจากมีอัตราเร่งที่ดีมาก โดยเฉพาะการใช้โหมด Power ในการขับขี่ เรียกได้ว่ามีความดึงอยู่พอสมควร ตัวคันเร่งมีการตั้งไว้หน่วงเล็กน้อย ซึ่งอยู่ในระยะพอดีกับการขับขี่ใช้งาน

 

      เรื่องของการควบคุม การเลี้ยวในโค้ง รู้สึกว่ามีการบาลานซ์น้ำหนักมาดีพอสมควร เพราะขับเข้าโค้งด้วยความเร็วในระดับหนึ่ง ก็ยังสามารถควบคุมรถได้มีประสิทธิภาพอยู่เหมือนเดิม นอกจากนี้ระบบเบรกที่เป็นดิสก์ทั้งหน้าและหลัง ถือว่ามีประสิทธิภาพที่ดีพอ เวลาเบรกรู้สึกมั่นใจ เอาอยู่แน่นอน

 

 KYMCO S7R

 

      KYMCO S7R ถือว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นท็อปสุดที่บริษัทได้นำมาทดสอบขับขี่ ซึ่งรหัส R ที่เพิ่มเติมเข้ามาก็จะเป็นอะไรไม่ได้เลย ถ้าไม่ใช่คำว่า Racing โดยภาพรวมในเรื่องการออกแบบดีไซน์ จะใช้พื้นฐานมาจากรุ่น S7 แต่จะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในหลายๆ จุด เพื่อสร้างความแตกต่างนั้นเอง

 

      แม้จะบอกว่าเป็นรุ่นแรง รุ่นเร็ว แต่เรื่องการใช้งานก็ยังตอบโจทย์การใช้งานที่อเนกประสงค์อยู่เหมือนเดิม โดยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกจะเหมือนกับรุ่น S7 ไม่ว่าจะเป็นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ใต้เบาะ (เล็กกว่ารุ่น I-One FLY) มีตะขอเกี่ยวอเนกประสงค์ มีช่องชาร์จไฟมือถือแบบ USB รวมไปถึงที่วางเท้าผู้ขับขี่ขนาดใหญ่แบบพื้นเรียบ โดยรถจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 100 กิโลกรัม

 

 

      สเปกของ KYMCO S7R จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าวางกลางขนาด 8,300 W ที่ส่งกำลังมาที่ล้อด้วยโซ่แบบรถมอเตอร์ไซค์เกียร์ทั่วไปในท้องตลาด ซึ่งบริษัทได้เคลมความเร็วสูงสุดไว้ที่ 98 กม./ชม. และมีอัตราเร่ง 0 - 50 ไว้ที่ 3.3 วินาที โดยแบตเตอรี่จะมีสเปกเป็น 50.82V/34.3Ah/1,743Wh ใช้จำนวน 2 ก้อน และได้เคลมระยะทางการขับขี่ไว้ที่ 100 กม./ชาร์จ ตรงจุดนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วในการขับขี่ใช้งานเป็นหลัก

 

      ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นโช้ค Telescopic ทำงานรวมกับระบบกันสะเทือนหลังแบบโช้คคู่ (สามารถปรับพรีโหลดได้) ในส่วนระบบเบรกหน้าเป็นดิสก์ และเบรกหลังก็เป็นดิสก์เช่นกัน พร้อมด้วยระบบเบรก ABS เพิ่มความปลอดภัย

 

มีระบบเบรก ABS เพิ่มเข้ามา

 

      ในส่วนของวงล้อหน้าให้ขนาด 13 นิ้ว ส่วนวงล้อหลังให้ขนาด 12 นิ้ว สำหรับระบบไฟส่องสว่างเป็น LED ทั้งคัน หน้าจอเรือนไมล์เป็นดิจิทัล ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ ระยะทางการขับขี่ และสัญญาณไฟแจ้งเตือนต่างๆ นอกจากนี้ก็มีโหมดการขับขี่ Power ให้ใช้งานเช่นกัน

 

      เมื่อได้ทดลองขับขี่ในระยะเวลาสั้นๆ ส่วนตัวผู้ทดสอบยังไม่ได้รับรู้ถึงกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้าที่แตกต่างไปจากรุ่น S7 เช่นเดียวกับการควบคุม การเข้าโค้ง และการเลี้ยวที่ไม่ได้แตกต่าง ซึ่งภาพรวมของรถทำได้ดีอยู่แล้ว

 

      สำหรับระบบเบรกที่เพิ่ม ABS เข้ามาเพิ่มความปลอดภัย จากการทดสอบเบรกหนักๆ ตัวระบบเบรก ABS ก็ตอบสนองการทำงานได้เป็นอย่างดี ตรงจุดนี้ที่ผู้ทดสอบสัมผัสได้ถึงความแตกต่างไปจากเดิมของรุ่น KYMCO S7R

 

 

       ภาพรวมของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า KYMCO ทั้งสามรุ่นที่ได้ทดสอบขับขี่ จะมีอยู่หนึ่งระบบที่น่าพูดถึงอยู่สักเล็กน้อย โดยรถจะมีเสียงแจ้งเตือนในการขับขี่ความเร็วต่ำ (ไม่เกิน 20 กม./ชม.) โดยมันเป็นเสียงที่จะช่วยเตือนให้ผู้คนรับรู้ว่ามีรถกำลังขับมา แต่ส่วนหนึ่งก็แอบน่ารำคาญอยู่ไม่มากก็น้อยสำหรับคนขับ เพราะถ้าขับขี่ในเมืองที่ต้องซอกแซกด้วยความเร็วต่ำ น่าจะได้ยิงเสียงนี้ไปทั้งวันอย่างแน่นอน

 

      เพราะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ต้องพูดถึงเช่นกันก็คือ แบตเตอรี่ โดยบริษัทได้ออกแบบให้ตู้ชาร์จ (ตู้สลับแบตเตอรี่) ให้สามารถใช้งานได้ง่าย เพียงแค่ถอดแบตเตอรี่ใส่เข้าไปในช่องที่วาง และตู้จะส่งแบตเตอรี่ลูกใหม่ที่มีไฟเต็มมาให้ใช้แทน ถือว่าเป็นอะไรที่สะดวกสุดๆ ในเรื่องการใช้งานตรงจุดนี้

 

 

      ทั้งนี้บริษัทได้ขายแนวความคิดเรื่องแบตเตอรี่ ว่าคนที่ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า KYMCO จะไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ เพราะคุณจะไม่ใช่เจ้าของแบตเตอรี่แต่อย่างใด ตัวของแบตเตอรี่จะมีการหมุนเวียนในระบบตู้ชาร์จ ซึ่งปลายทางสุดท้ายเมื่อแบตเตอรี่เสื่อมสภาพการจากการใช้งาน ทางบริษัทก็จะเป็นคนจัดการดูแลจัดการเอง

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook