เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 18 เมษายน 2562 - 17:31

ภาพโดย: Streetmetal

My name is Bank an automotive photographer and a based out of Thailand

ภาพโดย: BeastTorque

Automotive | Lifestyle | Cars

Honda CBR150R รีวิวสปอร์ตไบค์ในตำนาน การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ หลังจากที่หายไปถึง 9 ปี

 

          Honda CBR150R (ฮอนด้า ซีบีอาร์ 150 อาร์) นับว่าเป็นสปอร์ตไบค์ในระดับ Entry Class ที่อยู่คู่สังคมสองล้อในเมืองไทยมอย่างยาวนาน โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2002 ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่า ในช่วงนั้น เป็นยุคแห่งการเปลี่ยนถ่ายสายเลือดสองล้อตระกูลสปอร์ตให้มอเตอร์ไซค์ที่มาในรูปแบบ 2 จังหวะ กลายเป็นเพียงตำนานเท่านั้น จนกระทั่งในปี 2010 ทางค่ายปีกนก ได้ปล่อย Honda CBR150R รุ่นเปลี่ยนโฉมออกสู่ตลาด โดยมาพร้อมภาพลักษณ์ที่ดุดัน ให้อารมณ์ที่เร้าใจยิ่งขึ้น ซึ่งในเวลานั้น ถือว่าได้รับความสนใจจากไบค์เกอร์สายสปอร์ตไม่น้อยเลยทีเดียว

 

 

            นับเป็นเวลาถึง 9 ปีเต็ม ที่ Honda CBR150R ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปแบบชัดเจนมากนัก จนกระทั่งล่าสุดทาง Honda ก็ได้ฤกษ์ส่งเจนเนอเรชั่นใหม่ของ  Honda CBR150R 2019 ออกสู่ตลาด ภายใต้คอนเซปท์ "The one Reborn...กำเนิดใหม่ เร้าใจที่หนึ่ง" โดยมาพร้อมการถ่ายทอดอารมณ์สปอร์ตจากตัวแข่งรุ่นใหญ่ในเวทีระดับโลกอย่าง MotoGP ด้วยเส้นสายที่ดูโฉบเฉี่ยว จากแฟริ่งที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวตั้งแต่หัวจรดท้าย พร้อมใส่เครื่องเคียงอันล้ำสมัยเข้าไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบส่องสว่างที่เปลี่ยนมาใช้เป็นแบบ LED ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย รวมถึงไฟเลี้ยว ที่มาพร้อมระบบกระพริบอัตโนมัติ (ESS) ที่เมื่อเกิดการเบรกกระทันหัน (เฉพาะรุ่น ABS) ซึ่งนอกจากจะให้ทัศนวิสัยที่มีความโดดเด่น เติมความปลอดภัยยามใช้งานได้มากยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ของตัวรถให้ดูดีขึ้นไปอีกขั้น 

 

ถังน้ำมันความจุ 12 ลิตร เหลือเฟือสำหรับการใช้งาน

 

 

            สิ่งที่เปลี่ยนไปของ Honda CBR150R 2019 ไม่ใช่แค่ในส่วนของภาพลักษณ์เท่านั้น แต่ยังลงลึกไปถึงในส่วนของโครงสร้าง ที่เปลี่ยนมาใช้ในรูปแบบเฟรมถัก Innovative Truss Frame โดยมีการเสริมความแข็งแรงในจุดที่ต้องรับแรง และลดชิ้นส่วนในจุดที่ไม่จำเป็นเพื่อลดน้ำหนัก ซึ่งช่วยส่งให้ Honda CBR150R 2019 มีน้ำหนักที่เบาลงกว่าเดิมถึง 3 กก. เหลือเพียง 135 กก. เท่านั้น ถังน้ำมันมาในความจุ 12 ลิตร ออกแบบให้โอบกระชับ รับสรีระของผู้ขับขี่ เช่นเดียวกับเบาะนั่งแบบแยกส่วน (เบาะนั่งคนขี่สูง 787 มม.) ที่ให้อารมณ์ความเป็นสปอร์ตแบบเต็มขั้น 

 

เรือนไมล์ LCD บอกค่าต่างๆ ได้แบบครบถ้วน ทั้งรอบเครื่องยนต์, อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น, ไฟบอกตำแหน่งเกียร์, ระบบ Odo Meter และทริป A และ B พร้อมคำนวณอัตราการใช้เชื้อเพลิง

 

            เครื่องยนต์เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของ Honda CBR150R ที่ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด โดยถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจากตัวแข่ง Honda RC213V พิกัด 149.6 ซีซี. DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งความพิเศษอยู่ที่การใช้ลูกสูบเคลือบสารโมลิบดินั่ม ช่วยลดแรงเสียดทาน ทำงานได้เต็มกำลัง โดยความลับที่คนทั่วไปมิอาจรู้ คือ Honda เตรียมลูกสูบแบบ Over Size สำหรับเครื่องยนต์บล็อคนี้ไว้ให้ใช้ถึง 3 ไซส์ สำหรับคนที่ใช้งานอย่างหนักหน่วงและต้องการเติมความฟิตให้กับเคร่ืองยนต์ ซึ่งถือเป็นความ "เข้าทาง" สำหรับสายซิ่งอย่างเราๆ ท่านๆ ที่จะมีลูกโตไว้ให้ขยายความจุได้อย่างหลากหลายตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีการปรับรายละเอียดเครื่องยนต์ในจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การดีไซน์แยกแคมชาฟต์อิสระจากกัน ทำให้ตำแหน่งหัวเทียนอยู่กลางห้องเผาไหม้ ส่งผลให้การจุดระเบิดทำได้เต็มประสิทธิภาพ, ใช้เพลาข้อเหวี่ยงใหม่เพิ่มระยะชักให้มากขึ้น จาก 47.2 มม. ในเจนเนอเรชั่นก่อน เป็น 57.8 มม. ซึ่งเพิ่มมาอีกกว่า 10.6 มม. มีผลต่อแรงบิดดีตั้งแต่รอบต่ำจนถึงรอบสูง ไม่ต้องเค้นคันเร่ง หรือลากรอบเยอะก็ให้อัตราเร่งและการตอบสนองการขับขี่ที่ดีเยี่ยม จับคู่ระบบส่งกำลังแบบ 6 สปีด ที่มาพร้อมชุดคลัทช์แบบใหม่ ให้ประสิทธิภาพในการส่งถ่ายกำลังมากกว่าเดิม 11% และเปลี่ยนอัตราทดสเตอร์เป็น 15/45 เพิ่มความจัดจ้านในการถ่ายทอดพละกำลังได้มากยิ่งขึ้น

 

เบรกหน้าขนาดใหญ่ พร้อม ABS

 

ครั้งแรกในคลาส...กับโช้กอัพหน้าแบบปรับพรีโหลดได้

 

ระบบกันสะเทือนหลังแบบ Pro-Link ปรับ Preload ได้ 5 ระดับ

 

 

             Honda CBR150R 2019 ถือเป็นรถรุ่นแรกในพิกัด 150 ซีซี. ที่มาพร้อมระบบกันสะเทือนหน้าแบบปรับค่า Preload ได้ ซึ่งข้อดีก็คือ สามารถเซ็ตความแข็ง-อ่อน ในการยุบตัวของโช้กให้เหมาะกับน้ำหนักผู้ใช้ เพื่อให้การขับขี่มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่นเดียวกับระบบกันสะเทือนหลังแบบ Pro-Link สามารถปรับค่า Preload ได้ 5 ระดับ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับระบบช่วงล่างของรถแข่ง MotoGP พร้อมสเปคยาง IRC RX-01R Road Winner ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน โดยมียางหน้าขนาด 110/80 R17 และยางหลังขนาด 130/70 R17 ด้านระบบเบรกมาในรูปแบบดิสค์เบรกทั้งหน้าและหลัง พร้อมติดตั้ง ABS ที่ช่วยป้องกันล้อล็อคในเวลาเบรกกระทันหัน รวมถึงระบบไฟฉุกเฉินกระพริบอัตโนมัติ (ESS) ที่จะติดขึ้่นมาหากมีการเบรกอย่างรุนแรงอีกด้วย

 

 

            BoxzaRacing มีเวลาได้สัมผัสสมรรถนะของ Honda CBR150R 2019 อยู่พอสมควร ซึ่งครอบคลุมทั้งหารขับขี่ในสนาม และการใช้งานทั่วๆ ไปบนท้องถนน ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพและความโดดเด่นที่แท้จริงของตัวรถ Honda CBR150R 2019 ได้เป็นอย่างดี ในส่วนของภาพลักษณ์นั้น ต้องบอกว่าทำมาได้น่าสนใจมากทีเดียว โดยเฉพาะในเรื่องสีสันที่มีการใช้สีจากทีมแข่งชั้นนำอย่าง Repsol Honda และ A.P. Honda Racing Thailand มาใช้ (ในรุ่น ABS) ซึ่งช่วยปลุกจิตวิญญาณความเป็นสปอร์ตขึ้นมาได้อีกขั้น สัมผัสแรกของการขึ้นคร่อม รู้สึกได้ทันทีถึงความเป็นรถที่ขี่ง่าย มีความเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่ค่อนข้างสูง ด้วยน้ำหนักที่เบา แฮนด์บาร์ที่ยกสูง ไม่ต้องก้มมากจนเกินไป (ซึ่งตรงจุดนี่้ต่างกับคู่แข่งในคลาสอย่างชัดเจน) และความสูงของเบาะที่ไม่ได้สูงมากมายนัก สามารถวางเท้าได้เต็มพื้น ประคองตัวรถได้อย่างมั่นใจ ระบบส่งกำลังมีความนุ่มนวลทั้งชุดคลัทช์และระบบเกียร์ 6 สปีด ที่ให้สัมผัสอันเป็นมิตร เช่นเดียวกับในส่วนของพละกำลัง ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า แรงบิดในรอบต่ำนั้นเป็นจุดขายที่ทาง Honda สามารถนำเสนอได้อย่างตรงใจ ช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันทำได้ง่าย เดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น เพราะเพียงแค่เติมคันเร่งเบาๆ ในช่วงรอบต้นๆ ตัวรถก็พร้อมที่จะส่งพลังออกมาให้ใช้งานอย่างเต็มที่ ไม่ต้องเค้นรอบให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแต่อย่างใด การซอกแซกในสภาพการจราจรที่แออัดทำได้ดี มีความคล่องตัวสูงด้วยน้ำหนักตัวรถเพียง 135 กก. ส่วนในการเดินทางนั้นก็ทำได้อย่างสะดวก ด้วยความต่อเนื่องของพละกำลังที่สามารถใต่ความเร็วได้เรื่อยๆ ตามระดับ ซีซี. ซึ่งช่วงล่างแบบปรับได้ทั้งหน้าและหลัง หากได้รับการปรับให้เหมาะสมกับน้ำหนักของผู้ขับขี่ ก็ย่อมจะช่วยให้การขับขี่ในย่านความเร็วสูง มีความมั่นคงยิ่งขึ่น

 

ขี่ในสนามยังสนุกขนาดนี้ ถ้าขี่บนนถนน เรียกว่า...เหลือๆ

 

            นอกจากการขับขี่บนถนนแล้ว สำหรับการขับขี่ในสนามสั้นๆ โค้งแคบเยอะๆ สปอร์ตพันธุ์ใหม่อย่าง Honda CBR150R 2019 ก็ยังให้ฟีลลิ่งที่เร้าใจเกินตัว โดยในช่วงแรกนั้น BoxzaRacing ได้ลองขี่ช่วงล่างที่เซ็ตมาจากโรงงาน ยังไม่ได้ปรับค่าความแข็งของสปริงใดๆ ทั้งสิ้น ความรู้สึกที่สัมผัสได้ คือ แม้ว่าการเข้าโค้งในรูปแบบต่างๆ จะทำได้ดีพอตัว แต่ความความนิ่มที่มากเกินไป ในขณะที่เบากหนักๆ หรือเข้าโค้งด้วยความเร็วนั้น โช้กหน้าจะมีอาการยุบค่อนข้างมาก ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความมั่นคง และอาการของตัวรถที่มีมากขึ้น หลังจากนั้นเรากลับมาปรับเซ็ตช่วงล่างใหม่ โดยเพิ่มพรีโหลดเข้าไปมากยิ่งขึ้นตามน้ำหนักของผู้ขับขี่ ส่งผลให้ช่วงล่างแข็งขึ้นมาอีกระดับ ฟีลลิ่งที่ได้หลังจากที่ปรับช่วงล่างมาใหม่ รู้สึกได้ชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น แม้ว่าการปรับช่วงล่างให้แข็งจะส่งผลต่ออาการดื้อของหน้ารถเวลาที่เบรกอย่างรุนแรงไปบ้าง แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ช่วยให้การทรงตัวในโค้งทำได้อย่างมั่นใจ สามารถทรงตัวได้ดียิ่งขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า การที่ Honda ใส่ชุดช่วงล่างที่สามารถพรีโหลดได้มาใน Honda CBR150R 2019 ถือว่าตอบโจทย์การขับขี่ทั้งบนท้องถนน และการขับขี่ในแนวสปอร์ตได้เป็นอย่างดีจริงๆ

 

ค่าตัวแบบนี้ บอกเลย...คุ้ม !

 

            เรียกได้ว่า...คุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ สำหรับการกลับมาของ Honda CBR150R 2019 แม้ภาพลักษณ์ในบางจุดอาจยังขัดอกขัดใจสายสองล้อไปบ้าง แต่จากการที่ BoxzaRacing ได้ทดลองขับขี่อย่างต่อเนื่อง ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดีแล้วว่า Honda CBR150R 2019 คือ อีกหนึ่งมอเตอร์ไซค์สไตล์สปอร์ตที่ยังคงโดดเด่น ด้วยประสิทธิภาพในการควบคุมในความเป็น Total Control พร้อมความคุ้มค่าเกินตัวที่ยากจะหาใครมาเทียบ กับค่าตัวที่ 92,000 บาท ในรุ่นเริ่มต้น และ 99,000 บาท ในรุ่น ABS สำหรับใครที่กำลังมองอยู่ บอกเลยว่า...จัดได้เลยครับ !

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook