เขียนโดย: Pajingo

เมื่อ: 20 กรกฏาคม 2563 - 13:41

Honda Forza 350 การเดินทางครั้งใหม่ ที่ใหญ่และสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ลืมทุกสัมผัสเก่าๆ ไปได้เลย

Honda Forza 350 (ฮอนด้า ฟอร์ซ่า 350)

 

           เรียกได้ว่าเป็น Talk of the Town ที่มาแรงที่สุดในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ สำหรับการบุกตลาดสองล้อของ Honda Forza 350 (ฮอนด้า ฟอร์ซ่า 350) ที่ทำเอาต้องอ้าปากค้าง ด้วยค่าตัวที่เพิ่มข้นกว่าเดิมเพียง 4,500 บาท แต่กลับได้ความจุของเคริื่องยนต์ที่ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังมีบางท่านที่อาจมองว่าเป็นการไมเนอร์เชนจ์แบบเล็กๆ น้อยๆ แล้วมาใส่ชื่อใหม่ ยัดความจุเครื่องยนต์ให้สูงขึ้น แต่หากในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นอย่างที่คิดจริงหรือ ? ในครั้งนี้...BoxzaRacing มีโอกาสได้ทดลองขี่ Honda Forza 350 มาเป็นที่เรียบร้อย เดี่ยวเรามาคลายข้อสงสัยไปพร้อมๆ กันได้เลยครับ

 

มองแค่ดีไซน์ อาจคิดไม่ถึงว่า...เปลี่ยนไปเยอะ !

 

 

            การกลับมาของ Honda Forza 350 นั้น หากจะว่ากันด้วยพื้นฐานในด้านสรีระและดีไซน์ ต้องยอมรับว่า ไม่ได้ต่างไปจากรุ่นก่อนอย่าง Honda Forza 300 สักเท่าไหร่ เมื่อนำมาจอดคู่กัน อาจแยกความแตกต่างได้ยาก หรือต้องใช้ความชำนาญพอสมควร แต่หากเราลองมองให้ลึกในรายละเอียด จะพบว่า นอกจากในส่วนของบอดี้ที่ดูเปลี่ยนแปลงเพียงน้อยนิดแล้ว ส่วนอื่นๆ นั้น กลับมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงจากรุ่นก่อน โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องยนต์ ที่เรียกได้ว่าเป็นขุมพลังบล็อคใหม่ถอดด้าม

 

ขุมพลัง eSP+ พัฒนาใหม่ทั้งตัว ไม่ใช่แค่ยัดลูกโต

 

            สำหรับขุมพลังบล็อคใหม่ของ Honda Forza 350 ถูกพัฒนามาให้มีประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของเสถียรภาพในการขับขี่ ที่มีการเพิ่มบาลานเซอร์ที่ข้อเหวี่ยงเพิ่มเข้าไป ซึ่งช่วยให้การหมุนของเครื่องยนต์ทำได้สมูทมากยิ่งขึ้น โดยมาในชื่อ eSP+ แบบ 1 ลูกสูบ 4 วาล์ว พร้อมอัพความจุให้สูงขึ้นมาอยู่ในระดับ 330 ซีซี. (จากเดิม 279 ซีซี. มากกว่าเดิมราว 50 ซีซี.) ตัวเสื้อสูบพัฒนาขึ้นใหม่พร้อมยัดลูกสูบโตขึ้นอีก 5 มม. เป็น 77 มม. ฝาสูบใช้กระเดื่องวาล์วแบบโรลเลอร์ยูนิแคม เพื่อลดแรงเสียดทานในการเคลื่อนที่ ขยายหม้อกรองอากาศให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 5.5 ลิตร เช่นเดียวกับในส่วนของท่อไอเสีย ที่ช่วยให้การเผาไหม้และการระบายไอเสียทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในส่วนของระบบขับเคลื่อน ยังอัพเกรดด้วยชุดคลัทช์มาเป็นแบบ 5 ก้อน (จากเดิม 3 ก้อน) เผื่อให้การส่งถ่ายกำลังลงสู่พื้นให้หมดจดยิ่งขึ้น 

 

ท่อไอเสียใหม่ ระบายได้ดีขึ้น

 

ย้ายตำแหน่งหม้อน้ำ ระบายความร้อนได้ดีขึ้น บาลานซ์รถก็ดีขึ้นด้วย

 

             สิ่งหนึ่งที่เป็นที่พูดถึงกันมากสำหรับ Honda Forza 300 ก็คือ เรื่องของปัญหาความร้อนของเครื่องยนต์ ที่ในรุ่นก่อน ตำแหน่งการวางหม้อน้ำจะอยู่บริเวณกลางลำ (หน้าเครื่องยนต์) ซึ่งอาจจะมีปัญหาเรื่ององศาในการรับลมเข้าไประบายความร้อน ซึ่งอาจจะยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่สำหรับ Honda Forza 350 ได้ทำการย้ายตำแหน่งของหม้อน้ำ มาไว้ที่ด้านหน้า (หลังล้อหน้า) ซึ่งช่วยให้ลมสามารถไหลผ่านเข้าไประบายความร้อนของน้ำหล่อเย็นให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นี่คือ วัตถุประสงค์หลัก ส่วนวัตถุประสงค์รองลงมาก็คือ ด้วยการที่ย้ายหม้อน้ำมาอยู่ในด้านหน้า ย่อมส่งผลให้การถ่ายเทน้ำหนักของตัวรถนั้นเปลี่ยนไป ซึ่งเมื่อมีการกระจายน้ำหนักอย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ก็ยิ่งส่งผลในเรื่องของประสิทธิภาพการทรงตัว และการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นด้วย

 

เบาะใหญ่นั่งสบาย ขาจับสำหรับคนซ้อนก็พัฒนาใหม่ 2 ข้าง ของรุ่นใหม่ เบากว่าของรุ่นก่อน 1 ข้าง เสียอีก

 

            หัวใจหลักของการขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ทางค่าย Honda ให้ความสำคัญเป็นอันดับ 1 เสมอ นั่นก็คือ เรื่องของความปลอดภัย งานนี้ทางค่ายปีกนกจึงจัดมาให้แบบเต็มๆ เช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มระบบไฟฉุกเฉิน ESS ที่จะติดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเบรกอย่างรุนแรง เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ระบบเบรก ABS ทั้งหน้าและหลัง ระบบ Traction Control พร้อมเติมสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อตอบโจทย์การเดินทางที่เหนือระดับ เช่น ช่องเสียบชาร์จ แบบ USB พร้อมที่วางขวดน้ำ แผงหน้าปัดแบบดิจิตอลแสดงข้อมูลการขับขี่ครบครัน รีโมทอัจฉริยะฮอนด้าสมาร์ทคีย์ ระบุตำแหน่งพร้อมกันขโมย เป็นต้น

 

มาตรฐานความปลอดภัยแบบ New Normal ก่อนสลับผู้ขับขี่ ต้องมีพ่นฆ่าเชื้อทุกครั้ง 

 

           หลังเปิดตัวได้ไม่กี่วัน ทาง Honda ก็ได้เชิญชวนสื่อมวลชนเข้าร่วมการทดลองขับขี่ แม้จะเป็นการทดลองในช่วงสั้นๆ แต่ก็สะท้อนให้เห็นสมรรถนะอันโดดเด่นของ Honda Forza 350 ออกมาได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องยนต์บล็อคใหม่ ที่ใส่ความสมูทเข้าไปมากยิ่งขึ้น การเร่งออกตัวทำได้อย่างนุ่มนวล แต่กลับรู้สึกถึงพละกำลังที่ซ่อนอยู่ เพียงบิดคันเร่งเบาๆ รถก็พร้อมตอบสนองอย่างเพียงพอ ซึ่งคงต้องยกเครดิตให้กับเครื่องยนต์ที่มีความจุสูงขึ้น ซึ่งส่งผลในเรื่องของแรงบิดที่มีให้ใช้ตั้งแต่ในรอบต่ำมากขึ้นตามไปด้วย (ส่งผลให้การเร่งแซงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย) สำหรับการไต่ความเร็วนั้นทำได้อย่างทันอกทันใจ ใช้ระยะทางในช่วงสั้นๆ ก็สามารถเร่งได้ถึง 100 กม./ชม. จนสุดระยะของการทดลองขี่ แต่สิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกชอบที่สุด อาจไม่ใช่เรื่องของความเร็ว แต่หากเป็นความสมูทในการเร่ง ซึ่งตอบโจทย์กับความเป็นบิ๊กสกู๊ตเตอร์ระดับพรีเมี่ยมได้อย่างตรงจุด

 

ขนาดกำลังดี เข้ามือมากๆ

 

อัตราเร่งดี ทำความเร็วได้ต่อเนื่อง บนพื้นฐานความสมูท...ความชอบที่ 1

 

           ในช่วงของการทดลองขี่ เนื่องจากจากเป็นทางตรงยาวสลับกับยูเทิร์นแคบๆ นอกจากจะได้ทดลองในเรื่องของอัตราเร่งแล้ว ยังได้ทดลองประสิทธิภาพของชุดเบรกแบบเต็มๆ ซึ่งระบะเบรกที่ให้มาใน Honda Forza 350 ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานได้ดีทีเดียว ลดความเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งมีระบบ ABS และ ESS เข้ามาให้ ก็ยิ่งช่วยเติมความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ได้มากขึ้นอีกระดับ เรียกได้ว่าเดิมๆ ก็เอาอยู่ (ส่วนถ้าอยากอัพด้วยความคันส่วนตัวก็ตามสะดวก) นอกจากนี้ยังจัดเต็มความปลอดภัยด้วยระบบ Traction Control ที่พร้อมตอบสนองการทำงานได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่เจอสภาพพื้นผิวที่มีแรงยึดเกาะต่ำ ระบบจะตัดกำลังของเครื่องยนต์อย่างเหมาะสมโดยอัตโนมัติ (เท่าที่รู้สึก คือ ฟีลลิ่งการทำงานคล้ายสายลุยรุ่นใหญ่อย่าง Honda CRF1000 L Africa Twin) ไม่ต้องกังวลกับการเสียอาการเลยแม้แต่น้อย แค่โฟกัสกับเส้นทางข้างหน้าก็พอ 

 

พลิกรถง่าย ถ่ายเทน้ำหนักดี นุ่มนวลเหมือนล่องลอยในอากาศ...ความชอบที่ 2

 

             นอกจากเรื่องความสมูทของเครื่องยนต์แล้ว สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนประทับใจมากๆ อีกประการก็คือ เรื่องของฟีลลิ่งการขับขี่ คือ Honda Forza 350 เป็นรถที่ง่ายต่อการควบคุม แม้ว่าจะรถจะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ เมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์บ้านๆ ทั่วๆ ไป แต่ก็ยังให้ความคล่องตัวได้อย่างน่าประทับใจ การพลิกซ้าย พลิกขวา ทำได้โดยง่าย และให้น้ำหนักในการถ่ายเทได้ดี มีความมั่นคงสูง ซึ่งผลพลอยได้ส่วนหนึ่ง มาจากการย้ายตำแหน่งของหม้อน้ำ ที่ส่งผลให้การกระจายน้ำหนักทำได้ดีขึ้นนั่นเอง ในด้านเครื่องยนต์และฟีลลิ่งการขับขี่ หากเทียบกับรุ่นก่อน ต้องยอมรับเลยว่า Honda Forza 350 มีการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ดีขึ้นแบบผิดหูผิดตาจริงๆ ดูแล้วน่าจะเป็นคาแร็กเตอร์ที่ตอบโจทย์กับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมถึงการขี่ท่องเที่ยวไกลๆ ซึ่งด้วยการอัพเกรดเครื่องยนต์ในครั้งนี้ มีหลายกระแสยืนยันมาแล้วว่า "วิ่งจมไมล์" แน่นอน ส่วนอีกปัจจัยที่เปลี่ยนไป และมีผลให้สามารถขับขี่ไกลๆ ได้ดียิ่งขึ้นก็คือ การเพิ่มขนาดของชิลด์บังลมหน้าแบบไฟฟ้าให้สูงขึ้นอีก 40 มม. (ปรับระดับขึ้น - ลง ได้ 150 มม.) ช่วยลดแรงลมปะทะตัวผู้ขับขี่ ช่วยให้การเดินทางไกลๆ ทำได้สบายและลดความเมื่อยล้าได้มากยิ่งขึ้น

 

ใครมองอยู่...ไม่ต้องคิดเยอะครับ จัดได้เลย

 

           เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ โดยปกติแล้ว ผู้เขียนไม่ใช่คนที่ใช้มอเตอร์ไซค์ในชีวิตประจำวันเท่าไหร่นัก แอบเสียใจอยู่เล็กเมื่อรู้ว่ามีรถที่ขี่ดีรออยู่ตรงหน้า แต่ยังลำบากที่ต้องหาโอกาสจะนำมาใช้งาน เอาเป็นว่าขอเป็นกระบอกเสียงแทนผู้ที่กำลังสนใจ Honda Forza 350 ว่า นี่คือ มอเตอร์ไซค์ที่คุ้มค่าสุดๆ อีกหนึ่งรุ่น ซึ่งหากคุณกำลังมองหารถที่ราคาไม่แพง คันเดียวจบ ออกทริปไปไหนกับใครก็ได้ ด้วยสมรรถนะแบบนี้ ราคาแบบนี้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ซื้อเลยจริงๆ !!!

 

 

Honda Forza 350 ราคา 173,500 บาท

รถซื้อสอง ซื้อขายรถ ของแต่งรถ

ข่าวที่ใกล้เคียง

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook